"ปัจจุบันเริ่มมีนักธุรกิจไทยและบังกลาเทศได้ให้ความสนใจที่จะทำธุรกิจร่วมกันมากขึ้น เพราะบังกลาเทศได้รับสิทธิพิเศษทางการค้าจากสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการยกเว้นภาษีหรือโควตาจากประเทศดังกล่าว ส่งผลให้นักธุรกิจไทยสามารถใช้เป็นฐานผลิตส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ได้ในอนาคต โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มที่นักธุรกิจไทยมีศักยภาพ เช่น สิ่งทอ เภสัชกรรม อุตสาหกรรมการเกษตร เครื่องหนัง การก่อสร้าง พลาสติก รวมถึงการลงทุนในระบบโครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยวและสุขภาพ เพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยว" นายโชคดีกล่าว
สำหรับคณะนักธุรกิจไทยที่เข้าร่วมคณะเดินทางครั้งนี้ จะได้มีโอกาสเข้ารับฟังข้อมูลและโอกาสในการค้าการลงทุนจากเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงธากา ขณะเดียวกันจะได้รับฟังความคิดเห็นและข้อมูลด้านการดำเนินธุรกิจจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุนของบังกลาเทศ รวมถึงจะได้เข้าร่วมกิจกรรมพบปะจับคู่ธุรกิจกับนักธุรกิจและผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีศักยภาพในพื้นที่กรุงธากา และจิตตะกอง ของบังกลาเทศ