ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาสำหรับปีหน้า คือ ภาวะเศรษฐกิจโลก, ราคาน้ำมันในตลาดโลก, ปัญหาภัยธรรมชาติ รวมทั้งจับตาราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจจะมีผลต่อการขยายตัวของทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกได้ ขณะเดียวกัน ต้องจับตาเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วย
ส่วนปัจจัยบวกมาจากการปีหน้าจะเกิดการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในภูมิภาคเพิ่มขึ้น รวมทั้งเห็นผลจากการลงทุนใน Infrastructure Fund ในวงเงินหลายแสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี