"ประธาน ก.ส.ล. ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษในเรื่องการควบรวมในครั้งนี้ว่าจะต้องรักษาเจตนารมณ์ของกระทรวงพาณิชย์ในการใช้การซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เป็นเครื่องมือเพื่อทำให้กลไกราคาทำงาน สามารถสะท้อนราคาสินค้าเกษตรไทยให้สามารถใช้อ้างอิงในตลาดโลกในฐานะที่เราเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ รวมไปถึงเป็นเครื่องมือในการประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งท้ายที่สุดคนที่จะได้รับประโยชน์คือพี่น้องเกษตรกร ที่สามารถใช้ราคาจากการซื้อขายล่วงหน้ามาวางแผนการผลิตได้"
นอกจากนี้ ในระหว่างการดำเนินการด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการการควบรวมนั้น AFET ยังคงเปิดให้มีการซื้อขายการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าตามปกติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ขอให้ผู้ซื้อขายไม่ต้องกังวล เนื่องจากสำนักงาน ก.ส.ล. ได้ทำงานร่วมกับ AFET, TFEX และ ก.ล.ต.เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจให้ดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
ส่วนด้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สำนักงาน ก.ส.ล. และ AFET นั้น รมว. พาณิชย์ ได้เน้นย้ำให้พนักงาน ก.ส.ล. ทุกคนได้โยกย้ายไปทำงาน ณ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ พนักงาน AFET ไปทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าที่ได้รับอยู่ในปัจจุบัน