(เพิ่มเติม) ก.ต่างประเทศเชื่อไทยถูกตัด GSP ไม่มีผลกระทบวงกว้าง เหตุคู่แข่งโดนด้วย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 6, 2015 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ได้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกรณีที่ไทยถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP) จากสหภาพยุโรป(EU) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.58 ที่ผ่านมา โดย EU ได้ยกเลิกการให้สิทธิ GSP แก่สินค้าไทยกว่า 700 รายการ เช่น กุ้ง, ปลาหมึก, ทูน่ากระป๋อง, รถจักรยาน, รถจักรยานยนต์, น้ำมันปาล์ม, เครื่องนุ่งห่ม, รองเท้า จากเดิมที่ไทยในฐานะประเทศกำลังพัฒนาเคยได้รับสิทธิดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแก่สินค้า 773 รายการ

"การเสียสิทธิ GSP ของไทยในครั้งนี้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ใหม่ของ EU ซึ่งได้เคยแจ้งกับไทยและประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทราบหลักเกณฑ์คู่ค้าใหม่นี้ตั้งแต่ 18 ธ.ค.55 อีกทั้ง EU ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าทุกประเทศ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ EU พิจารณาว่าไทยเสียสิทธิ GSP ในครั้งนี้ มาจากการที่ธนาคารโลกจัดอันดับประเทศไทยมีรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง ติดต่อกันมากกว่า 3 ปี ตั้งแต่ปี 2554-2556" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

ทั้งนี้ EU ได้เปิดโอกาสให้ไทยได้ปรับตัวก่อนเป็นเวลา 1 ปีแล้ว ในปี 2557 ซึ่งไม่เพียงแต่ไทย ยังมีประเทศอื่นที่ถูกตัดสิทธิ GSP ในครั้งนี้ด้วย เช่น จีน, เอลกวาดอร์ และมัลดีฟท์ จากเหตุผลเดียวกัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศระบุด้วยว่าการถูกตัดสิทธิ GSP ในครั้งนี้จะมีผลกระทบอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากประเทศคู่แข่งของไทยในตลาด EU ต่างถูกตัดสิทธิ GSP เช่นเดียวกัน นอกจากนี้สินค้าไทยหลายรายการที่เคยได้รับสิทธิ GSP จะถูกกลับมาเรียกเก็บภาษีในอัตราต่ำ และที่สำคัญคือผู้นำเข้าใน EU ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าบางรายการจากไทย

"การที่ไทยถูกตัดสิทธิ GSP ตั้งแต่ 1 ม.ค.58 เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้าของ EU เอง โดยไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทย อีกทั้งไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับ EU และประเทศสมาชิก EU" ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับเรื่องนี้ เพราะหลายประเทศก็โดนตัดสิทธิ์เช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้มีการแบ่งประเทศที่มีรายได้น้อย รายได้ปานกลางและรายได้สูง ซึ่งที่ผ่านมาไทยถือว่าเป็นประเทศจากประเทศที่มีรายได้น้อยเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง เป็นจากการได้สิทธิ GSP มาต่อเนื่องตลอด 3 ปีจึงถูกตัดสิทธิทางภาษี ทำให้หลังจากนี้ไทยต้องเสียภาษีมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างความเข้มแข็งทางภาคเศรษฐกิจ ด้านการผลิต การตลาด สร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศได้

ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้กำลังใจทุกฝ่าย โดยอย่างไปคิดว่าเป็นความสูญเสีย แต่เนื่องจากระบบเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น และยังสามารถขายสินค้าได้เช่นเดิม โดยผู้ประกอบการต้องดูแลเรื่องคุณภาพสินค้าและต้นทุนการผลิต ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรณีนี้ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก เพราะผู้ประกอบการได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ