นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ว่า สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการเสนอให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในภาวะชะลอตัว คือ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในทุกส่วนให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะงบที่ค้างท่อ งบซ่อมบำรุง งบโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ประมาณ 4% แต่ภาคเอกชนมองว่า อาจขยายตัวได้ 3.5% เพราะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวดีนัก
"เรื่องที่ภาคเอกชนต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับปีนี้ คือ ความผันผวนของค่าเงินบาท ซึ่งต้องการให้รัฐบาลดูแลให้ใกล้เคียงกับค่าเงินของประเทศคู่แข่ง เพื่อไม่ให้เสียเปรียบด้านการค้า อย่างขณะนี้ ค่าเงินบราซิลอ่อนค่าลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ของไทยยังเท่าเดิม ทำให้ไทยเสียเปรียบในการส่งออกน้ำตาล ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นผลดีกับไทย ทำให้ประหยัดเงินนำเข้าน้ำมันได้มากถึง 300,000 ล้านบาท แต่ถ้าคนไทยยังใช้น้ำมันสิ้นเปลืองก็อาจไม่ได้ประโยชน์อะไร" นายอิสระ กล่าว