"สินค้าที่ได้เรียกหารือ อย่างกลุ่มเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตปิโตรเลียม ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ลดลง ก็จะลดราคามากสุดถึง 3.85-7.7% โดยเฉพาะเม็ดพลาสติกที่นำมาผลิตขวดเพ็ท จะลดราคาจาก 45.5 บาท/กก. เหลือ 45.2 บาท/กก. และต้องไปดูต่อว่าสินค้าใดที่ต้องใช้ขวดเพ็ทเป็นแพ็กเก็จบรรจุสินค้า ก็อาจจะมีต้นทุนต่ำลง ก็จะขอความร่วมมือลดราคาตามลงมา" นายบุณยฤทธิ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี บางกลุ่มสินค้าอาจลดราคาลงมาไม่มาก เช่น ปุ๋ยเคมี แม้จะเป็นผลพลอยได้จากการผลิตปิโตรเลียม แต่ไทยต้องนำเข้าแม่ปุ๋ยมาผลิต ซึ่งมีเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาพิจารณาการปรับลดราคา ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เคยขอความร่วมมือให้กลุ่มปุ๋ยเคมีปรับลดราคาลงมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร หากจะให้ปรับลดคงต้องนำราคาก่อนหน้าที่จะขอความร่วมมือ มาเปรียบเทียบกับต้นทุนที่ลดลง ถึงจะเป็นราคาใหม่ที่จะปรับลดลงมา
สำหรับการดูแลสินค้าในกลุ่มอาหารที่มีการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีราคาแพงนั้น อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ล่าสุดกรมฯ เตรียมใช้มาตรการออกประกาศราคาแนะนำ เพื่อดูแลราคาต้นทาง กลางทาง และปลายทางให้สอดคล้องกัน โดยจะประกาศราคาแนะนำสินค้านำร่องคือ เนื้อหมู, ไข่ไก่ และแก๊สหุงต้ม ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.นี้เช่นกัน หากผู้ประกอบการรายใดขายเกินราคาแนะนำ จะเข้าไปตรวจสอบเป็นกรณีไป โดยจะตักเตือนก่อน หากยังขายเกินราคาอีกจะถือว่าจงใจบิดเบือนราคา สร้างความปั่นป่วนให้ตลาด มีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ