ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 14,344 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.9 สาเหตุสำคัญมาจากภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 11,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.0 เนื่องจากผลการจัดเก็บภาษีรอบครึ่งปีบัญชี(ภ.ง.ด. 51) ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายจากการจำหน่ายกำไร(ภ.ง.ด. 54) จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการเป็นสำคัญ
"การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นที่สูงกว่าเป้าหมาย เป็นปัจจัยสนับสนุนให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 สูงกว่าเป้าหมาย สำหรับในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2558 คาดว่าภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นจะส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้" นายกฤษฎา กล่าว
ทั้งนี้ เฉพาะในเดือนธันวาคม 2557 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 170,382 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,046 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.5) ส่งผลให้ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 รายได้รัฐบาลสุทธิเท่ากับ 506,978 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,131 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.0 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 0.7)
โดยรัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 170,382 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 2,046 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 (แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.5) โดย 3 กรมจัดเก็บภาษีสังกัดกระทรวงการคลังจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ 8,436 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,996 2,294 1,762 และ 1,591 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.6 3.7 19.5 และ 73.9 ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่นสูงกว่าเป้าหมาย 6,477 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.1 สาเหตุสำคัญมาจากการส่งคืนเงินกันชดเชยให้แก่ผู้ส่งออกเป็นรายได้แผ่นดินสูงกว่าประมาณการ 5,562 ล้านบาท นอกจากนี้ ภาษีน้ำมันจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,116 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.9 เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซลจาก 0.75 บาทต่อลิตร เป็น 3.25 บาทต่อลิตร