โดยเมื่อรับมอบครบ 20 คัน การขนส่งสินค้าจะรวดเร็วมากขึ้น ทำให้ปริมาณการรับส่งสินค้าทางรถไฟได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตามแผนงานพัฒนาขนส่งทางรางนั้นในปี 2558-2560 จะมีการดำเนินการก่อสร้างเส้นทางรถไฟทางคู่ขนาด 1 เมตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเดินรถให้รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น และ จัดหาหัวรถจักรและตู้สินค้าตู้โดยสารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร เพื่อให้การขนส่งสินค้าจากรถบรรทุกมาเป็นรถไฟมากขึ้น ลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์
นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการผู้ว่าการฯร.ฟ.ท.กล่าวว่า หัวรถจักร 20 คันมีน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน/เพลา ซึ่งจะสามารถรองรับลากจูงได้ถึง 40 แคร่ ซึ่งมากกว่าหัวรถจักรปัจจุบันที่ลากจูงได้ที่ 30 แคร่ หรือรับตู้สินค้าได้ 60 ทีอียู ซึ่งจะทำให้รถไฟไทย มีขีดความสามารถด้านกำลังหัวจักรเทียบเท่ากับทางมาเลเซีย และเป็น 2 ประเทศผู้นำในอาเซียน และหากนำไปใช้บนทางขนาดราง 1.435 เมตรจะยิ่งเต็มประสิทธิภาพ โดยจะทยอยรับมอบล็อตต่อไปอีก 8 คันและอีก 10 คันครบภายในปี 2558 ซึ่งแผนการใช้งานเมื่อครบ20 หัวนั้น จะแบ่งหัวรถจักร 7 คัน สำหรับขนส่งตู้สินค้าจาก ไอซีดีลาดกระบัง-แหลมฉบัง และหัวรถจักรที่เหลืออีก 13 คัน จะนำไปใช้สำหรับรถสินค้าทั่วไป กลุ่มเกษตร พลังงาน ปูนซีเมนต์ ในภูมิภาคที่มีศูนย์กระจายสินค้า และย่านกองเก็บตู้สินค้า ( Container Yard) เพื่อให้การขนส่งสินค้าเปลี่ยนโหมดจากรถยนต์มาใช้ทางรถไฟมากขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ความเร็ว 100 กม./ชม.
ทั้งนี้ คาดว่าหัวรถจักร 20 หัว จะเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าและสร้างรายได้เพิ่มให้ร.ฟ.ท.อีกประมาณ 30% จากปัจจุบันรถไฟมีรายได้จากการขนส่งสินค้าประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี และร.ฟ.ท.ยังอยู่ระหว่างการจัดหารถจักรเพิ่มอีก 80 หัว ให้ครบตามแผน จัดหาหัวจักรใหม่ 100 หัว โดยจะทยอยจัดหา อีก 50 หัวและ 30 หัว น้ำหนักกดเพลา 16 ตัน/เพลาครบภายใน 2.5 ปี ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า ซึ่งเป็นไปตามแผนฟื้นฟูการรถไฟโดยจะทำให้ขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3 -4 เท่า
สำหรับโครงการจัดหารถจักดีเซลไฟฟ้า ขนาดน้ำหนักกดเพลา 20 ตันต่อเพลา จำนวน 20 คันทาง ร.ฟ.ท ได้สั่งซื้อโดวิธีประกวดราคาสากล และลงนามสัญญาการจัดซื้อเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2556 และเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา รถจักรไฟฟ้าดังกล่าวได้เดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบังและมีกระบวนการทดสอบระบบรถจักรซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยและหลังจากนี้บริษัทผู้ผลิตจะทยอยจัดส่งรถจักรไฟฟ้าอีก 18 คันภายในปี 2558