โพลล์ เผยประชาชนส่วนใหญ่พอใจการดูแลราคาสินค้า-ค่าครองชีพของรัฐบาล

ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 74 ระบุถึงแม้จะมีการปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า แต่ในภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคยังเท่าเดิม ไม่ถูกลง และที่ร้อยละ 15.0 ระบุว่า ราคาแพงขึ้นกว่าเดิม มีเพียงร้อยละ 10.3 เท่านั้นที่เห็นว่าราคาสินค้าถูกลง

ส่วนสาเหตุหลักที่ราคาสินค้าไม่ลดลงในปัจจุบัน ทั้งที่ราคาน้ำมันลดลงค่อนข้างมาก ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 65.3 ระบุว่า พ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมลดราคา รองลงมา 47.2 ระบุว่ารัฐไม่มีมาตรการควบคุมอย่างจริงจัง ร้อยละ 35.7 ระบุว่าการผลิตสินค้ายังมีต้นทุนสูง และร้อยละ 30.2 ระบุว่าเป็นผลจากการขึ้นเงินเดือนข้าราชการและค่าแรง 300 บาท/วัน

สำหรับประเภทสินค้าที่อยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องราคามากที่สุดในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 36.3 ระบุว่า อาหารของสด เช่น ผัก หมู เห็ด เป็ด ไก่ รองลงมาร้อยละ 23.9 ระบุว่า ของใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก และร้อยละ 19.5 ระบุว่า อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว (ร้อยละ 19.5)

โดยประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 58.4 มีรายได้ไม่ค่อยเพียงพอถึงไม่พอเมื่อเปรียบเทียบกับรายจ่าย ในจำนวนนี้ร้อยละ 38.7 มีรายได้ไม่ค่อยเพียงพอกับรายจ่าย และร้อยละ 19.7 มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ขณะที่ร้อยละ 41.6 มีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย

และประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.1 ยอมรับว่า รายได้ ค่าครองชีพ และราคาสินค้าในปัจจุบันมีผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายอย่างระวัง ซื้อแต่ของจำเป็น ขณะที่ร้อยละ 20.9 ใช้จ่ายเหมือนเดิม กินเหมือนเดิม ที่เหลือร้อยละ 7.8 ไม่ค่อยใช้จ่าย เน้นเก็บออม

ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะประกาศราคาแนะนำสินค้าอาหารจำพวกอาหารสด เนื้อหมู ไก่ ไข่ แก๊สหุงต้ม ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 45.5 เชื่อว่าพ่อค้าแม่ค้าจะขายสินค้าดังกล่าวตามราคาแนะนำ ขณะที่ร้อยละ 38.3 เชื่อว่าจะขายแพงกว่าราคาแนะนำ ที่เหลือร้อยละ 6.1 เชื่อว่าจะขายถูกกว่าราคาแนะนำ

ทั้งนี้ กรุงเทพโพลล์ได้สุ่มสำรวจความคิดเห็นทางโทรศัพท์ในหัวข้อ "ราคาสินค้าควรเป็นอย่างไรหลังราคาน้ำมันลด" จากประชาชนกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,143 ราย ช่วงวันที่ 20-22 ม.ค.ที่ผ่านมา