"หากแล้วเสร็จก็จะทำให้มูลค่าการค้าการลงทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังกลายเป็นจุดที่สอดรับต่อระบบขนส่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนเติบโตขึ้น เพราะมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศอาเซียนและจีนตอนใต้อีกด้วย"นายสีรพงศ์ กล่าว
ล่าสุด นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายวีรพงศ์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายรับฟังบรรยายสรุปเรื่องแนวทางเตรียมความพร้อมในการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งกำหนดยุทธศาสตร์สำคัญ 4 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1.การสนับสนุนพัฒนาอุตสาหกรรมและเชื่อมโยงการผลิตอย่างยั่งยืน 2.การสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3.การส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบการอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4.การส่งเสริมการลงทุน เพื่อรองรับเศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดชายแดนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58 นี้
“จังหวัดเชียงราย มีทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีความเหมาะสมในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากมีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion:GMS) ซึ่งประกอบด้วย ไทย กัมพูชา พม่า ลาว เวียดนาม และ จีนตอนใต้ (มณฑล ยูนนานและกวางสี) ดังนั้นมองว่าประเทศไทยยังมีข้อได้เปรียบที่สำคัญโดยเฉพาะด้านคมนาคม ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ นับเป็นจุดศูนย์กลางในการเชื่อมโยงไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนมีความสะดวก จะส่งผลให้การเติบโตทางการค้าการลงทุนในแถบชายแดนเติบโตเพิ่มขึ้น"นายจักรมณฑ์ กล่าว
นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจะสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทยได้ ดังนั้นจึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกัน อาทิ การปรับโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออำนวยความสะดวก ได้แก่ ถนน ไฟฟ้า น้ำ และ ระบบราง และในเร็วๆนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านพื้นที่เพื่อกำหนดพื้นที่เขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีศักยภาพ โดยมี พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานฯ