สาระสำคัญของร่าง พ.ร.ฎ.ดังกล่าว คือ การแก้ไขเพิ่มเติมนิยามคำว่า“ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม"ในมาตรา 3 แห่ง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่ 331) พ.ศ.2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่ 500) พ.ศ.2553 ดังนี้
พระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบับที่ 500) พ.ศ.2553 ร่างมาตรา 3 กำหนดให้ “ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม หมายความว่า ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบุคคล ดังต่อไปนี้ (1) ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (2) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (3) ธนาคารแห่งประเทศไทย (4) ซึ่งมอบหมายให้บุคคลตาม(1) หรือ (2) เป็นตัวแทนหรือนายหน้าในการทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ (5) ผู้ซึ่งทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์กับบุคคลตาม (1) (2) หรือ (3)
ส่วนร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ที่กระทรวงการคลังเสนอ ร่างมาตรา 3 กำหนดให้“ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืม"หมายความว่า ผู้ยืมหรือผู้ให้ยืมหลักทรัพย์ซึ่งเป็นบุคคลดังต่อไปนี้ (1) ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (2) ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (3) สำนักหักบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (4) ธนาคารแห่งประเทศไทย (5) ผู้ซึ่งมอบหมายให้บุคคลตาม (1) (2) หรือ (3) เป็นตัวแทนหรือนายหน้าในการทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ (6) ผู้ซึ่งทำสัญญายืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์กับบุคคลตาม (1) (2) (3) หรือ (4)