ทั้งนี้ได้เร่งรัดในที่ประชุมให้มีการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรชาวนาและชาวสวนยางที่ยังตกค้างอยู่ และให้มีการประเมินผลการทำงาน หากยังไม่ได้ผลให้มีการยกเลิกและหามาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆแทน
นอกจากนี้ได้มีการสั่งการให้มีการจัดตั้งคณะทำงานบูรณาการระดับกระทรวง 10 คณะ โดยจะเป็นคณะทำงานที่ติดตามงานด้านต่างๆ ที่รัฐบาลและ คสช.เคยได้สั่งการไปแล้ว เช่น การบริหารจัดการน้ำ การจัดสรรที่ดิน และการช่วยเหลือด้านการเกษตร ทั้งการให้ข้อมูล และจัดตั้งให้ความรู้กับเกษตร
ส่วนมาตรการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้รอฟังการชี้แจงจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร และเร่งการจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับชาวนาที่ยังตกค้างอยู่ประมาณ 8 หมื่นราย และจ่ายเงินให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ที่เหลืออีก 2 แสนรายให้แล้วเสร็จในสิ้นเดือนม.ค.นี้
ส่วนระยะต่อไปให้มีการดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการข้อมูลภาคเกษตร โดยให้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาไทยและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการจัดทำข้อมูลให้เป็นเอกภาพ และมอบหมายให้ทุกหน่วยงานจัดหาพื้นที่จัดทำเป็นพื้นที่ตลาดเพื่อรองรับสินค้าจากเกษตรกร ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ทั้งนี้คณะทำงานที่จัดตั้งขึ้น จะมีผู้แทนของแต่ละกระทรวงมาร่วมกันทำงานในการขับเคลื่อนนโยบายและติดตามแก้ไขปัญหาในเรื่องต่างๆอย่างใกล้ชิด
ส่วนการจัดสรรที่ดินให้กับคนจนนั้น มอบหมายให้กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยในการจัดสรรที่ดินอย่างเป็นธรรม
สำหรับแผนบริการจัดการน้ำ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให กระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำงานร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเพิ่มพื้นที่ชลประทานเพิ่มเติมอีก 30 ล้านไร่ ส่วนการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้องบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร และรณรงค์ให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย และให้เตรียมการจัดทำฝนหลวงในพื้นที่แห้งแล้งโดยเร็ว