"กรมฯยังยืนยันเดินหน้าเปิดสัมปทานรอบ 21 ต่อไป โดยจะครบกำหนดผู้ยื่นขอสิทธิสำรวจภายในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เบื้องต้นมีผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่สนใจค่อนข้างมาก โดยเฉพาะ 3 แปลงในอ่าวไทยดังกล่าว"นางพวงทิพย์ กล่าว
นางพวงทิพย์ กล่าวว่า แปลงปิโตรเลียมทั้ง 3 แปลงดังกล่าว เคยสำรวจแล้วพบว่ามีศักยภาพปิโตรเลียม แต่สาเหตุที่ผู้ประกอบการคืนแปลงสำรวจมาก่อนหน้านี้ เพราะปริมาณผลิตยังไม่คุ้มทุน
สำหรับการที่จะนำระบบ PSC มาใช้กับแปลง G3/57, G5/57, G6/57 สืบเนื่องจากสภาปฏิรูปแหง่ชาติ (สปช.) เสนอทางกรมฯพิจารณาใช้ระบบ PSC มาใช้ในแปลงสัมปทานของไทย ซึ่งกรมฯได้ออกมาตรการในการดำเนินงานเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยเพิ่มเติมในประกาศเชิญชวน ได้แก่ ข้อ 2.4 (2) วรรคสอง "ผู้ยื่นขอทุกรายจะยินยอมให้กระทรวงพลังงานเปิดเผยคำขอ พร้อมทั้งโครงการและข้อผูกพันด้านปริมาณเงินและปริมาณงานที่ยื่นประกอบคำขอเมื่อวิ้นสุดการพิจารณา"
ข้อ 4.8 "ในกรณีที่รัฐมีนโยบายให้นำระบบ PSC มาใช้สำหรับแปลงสำรวจในอ่าวไทย หมายเลข G3/57 G5/57 และ G6/57 เพื่อให้เกิดความเหมาะสม กับศักภาพของปิโตรเลียมของแปลงดังกล่าว รัฐบาลอาจใช้สิทธิแจ้งให้ผู้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมาเจรจาเพื่อตกลงและยินยอมเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ สิทธิ และหน้าที่ให้เป็นไปตามนโยบายนั้นก็ได้ โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องเจรจาเพื่อให้บรรลุข้อตกลงอย่างเป็นธรรมและสอดคล้องกับสัญญาที่มีอยู่ระหว่างกันภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฏหมายจะได้กำหนดต่อไป โดยใช้สิทธิแจ้งของรัฐบาลตามข้อนี้จะต้องดำเนินการภายใน 4 ปีแรกของช่วงระยะเวลาสำรวจ"
อนึ่ง กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการเปิดให้ผู้ที่สนใจยื่นคำขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลงสำรวจต่างๆ เขตพื้นที่บนบกและในทะเลอ่าวไทย รวม 29 แปลง ประกอบด้วย แปลงบนบก 23 แปลง และแปลงในทะเลอ่าวไทย 6 แปลง โดยให้ยื่นคำขอภายในวันที่ 18 ก.พ.นี้ โดยการเปิดสัมปทานรอบนี้จะใช้ระบบสัมปทานแบบ Thailand 3+