นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าลงมาจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.63/64 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับภูมิภาค หลังจากเมื่อวานนี้ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% และกำหนดนโยบาย QE ส่งผลให้เงินปอนด์สเตอร์ริงของอังกฤษทำ High ในรอบ 1 เดือน ขณะที่เงินยูโรก็กลับขึ้นมาแถวๆ High ทำให้เป็นแรงกดดันต่อดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลทั่วโลก รวมทั้งเงินบาทด้วย
ส่วนทิศทางค่าเงินบาทในวันนี้ คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.65 บาท/ดอลลาร์ รอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.31 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 117.14 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1380 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1351 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6040 บาท/ดอลลาร์
- ตลาดหลักทรัพย์เตรียมสรุปแผนเปลี่ยนการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ เป็น 2 วันทำการ จากเดิม 3 วันทำการ คาดเริ่มใช้ได้ใน 2-3 ปี เชื่อระบบชำระราคาใหม่ที่จะเริ่มใช้กลางปีนี้ ช่วยทุกฝ่ายทำธุรกรรมง่ายขึ้น พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เป็นเซทเทิลเมนท์แบงก์ หวังดึงต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น
- เจพี มอร์แกน เผยแนวโน้มเศรษกิจไทยอาจไม่โตตามเป้าถึง 4% หากรัฐบาลล่าช้าในการใช้จ่ายเงินลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ตามที่แถลงไว้ อาจฉุด GDP ลดต่ำเหลือเพียง 3.2%
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสหรัฐมียอดขาดดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าข้อมูลด้านแรงงานสหรัฐออกมาในเชิงบวก
- ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการประชุมวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันที่ดิ่งลงกดดันให้เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนด แม้เศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานลดต่ำลง
นอกจากนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOE ยังได้คงวงเงินการซื้อพันธบัตรในพอร์ทที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์ (5.67 แสนล้านดอลลาร์)
- กรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาพลังงานที่ระดับต่ำ และเงินปอนด์ที่แข็งค่า จะช่วยให้เงินเฟ้อของอังกฤษอยู่ในระดับต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ EC คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของอังกฤษจะอยู่ที่ 1% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 1.6% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว และคาดว่าจะดีดตัวขึ้นแตะ 1.6% ในปีหน้า
นอกจากนี้ EC ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอังกฤษ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 2.6% ในปีนี้ ลดลงจาก 2.7% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ และอยู่ที่ 2.4% ในปีหน้า
- รมว.คลังกรีซและรมว.คลังเยอรมันได้แสดงความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผย หลังการเจรจาอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซที่กรุงเบอร์ลิน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,262.70 ดอลลาร์/ออนซ์
- ธนาคารกลางเดนมาร์กประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยตราสารเงินฝากลง 0.25% สู่ระดับ -0.75% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการปรับลดเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 1 เดือน ขณะที่ธนาคารกลางพยายามทำให้เงินโครนมีเสถียรภาพเมื่อเทียบยูโร