"เป็นความร่วมมือของกระทรวงพาณิชย์กับห้างฯ ในการจำหน่ายอาหารราคาถูก โดยห้างจะใช้พื้นที่เดียวกันกับร้านค้าที่จำหน่ายอาหารเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ได้ไปแอบอยู่มุมใดมุมหนึ่ง คุณภาพอาหารก็เป็นปกติ ไม่ได้ปรับลดใดๆ โดยในกรุงเทพฯ จะเริ่มได้เลย แต่ในสาขาของห้างต่างจังหวัด ต้องใช้เวลาตกแต่งสถานที่ ปรับพื้นที่บ้าง แต่โดยรวมไม่เกินวันที่ 17 ก.พ.นี้ จะมีอาหารราคาถูกขายครบทุกสาขาของห้าง สังเกตได้จากป้ายหนูณิชย์พาชิม ที่จะตั้งอยู่ใกล้ๆ ร้าน โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 4 เดือน หลังจากนั้นจะคุยกันใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
สำหรับร้านอาหารปรุงสำเร็จร้านอื่นๆ ที่อยู่ในห้าง และไม่ได้เข้าร่วมโครงการนั้น จะยังคงจำหน่ายในราคาปกติเช่นเดิม เพราะถือเป็นร้านทางเลือกที่ผู้บริโภคต้องฉลาดซื้อ ประหยัดใช้ และใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจบริโภค ส่วนการขอความร่วมมือให้ห้างปรับลดค่าเช่า และค่าส่วนแบ่งรายได้ที่คิดกับร้านอาหารลง เพื่อให้ราคาอาหารปรุงสำเร็จในห้างในภาพรวมปรับลดลงนั้น วันนี้ไม่ได้หารือกัน เพราะห้างได้เสนอทางเลือกมา โดยจะเพิ่มจุดจำหน่ายอาหารราคาถูกให้ประชาชน
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลอาหารในร้านค้าทั่วไป และในตลาดสดอย่างเต็มที่ โดยให้ตรวจสอบสถานการณ์ราคาเป็นประจำทุกวัน หากพบว่าร้านค้าใดจำหน่ายอาหารราคาแพงเกินควร จะดำเนินการตรวจสอบต้นทุน ถ้าพบว่าต้นทุนไม่เพิ่ม แต่ขายในราคาแพงเกินควรจะมีโทษ เพราะมีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือประชาชน หากพบร้านค้าใดจำหน่ายอาหารในราคาแพงเกินไปให้แจ้งมาได้ที่สายด่วน 1569 ซึ่งกระทรวงฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบ และหากพบว่าผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป