"เพื่อเป็นการจับจังหวะลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี และรองรับความต้องการของนักลงทุนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง จึงเปิดเสนอขาย "กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #3"โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายในระยะเวลา 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากนั้น"นายสาห์รัช กล่าว
นายสาห์รัช กล่าวว่า กองทุนดังกล่าวจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนน้ำมัน United States Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบคุณภาพดี (WTI Light Sweet Crude Oil) ในตลาดไนเม็กซ์ (NYMEX) ในสหรัฐฯ โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ และเป็นสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าที่มีการซื้อขายและได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
สำหรับกองทุนเปิดทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #1 สามารถเข้าเป้าได้ภายใน 4 วันทำการ สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารกองทุนในการจับจังหวะการลงทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กองที่ 2 ยังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างมาก จนจองเต็มมูลค่าโครงการที่ 1 พันล้านบาท ทำให้มั่นใจว่ากองที่ 3 นี้จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเช่นเดียวกัน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลก (WTI) รีบาวน์กลับมาอยู่ที่เหนือ 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาเรลล์อีกครั้ง เป็น ผลมาจากชะลอการผลิตน้ำมันดิบของบ่อขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ส่งผลให้ภาวะอุปทานส่วนเกินเริ่มลดลง นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งสัญญาณฟื้นดีขึ้นอย่างชัดเจน นำโดยการประกาศนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของจีน โดยธนาคารกลางจีน (PboC) ปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 50 bps สำหรับทุกธนาคาร และลดเพิ่มอีก 50 bps สำหรับธนาคารในชนบท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 58 ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้เพิ่มขึ้นในระบบธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯรายสัปดาห์ สิ้นสุดที่ 31 ม.ค. 58 เพิ่มขึ้นมาที่ 278,000 ราย แต่ดีกว่าตลาดคาดที่ 290,000 ราย จากปัจจัยบวกเหล่านี้ ทิสโก้จึงมีมุมมองว่าราคาน้ำมันจะมีเสถียรภาพและปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 58 โดย Consensus คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 67 -72 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก