"แนะนำว่า กนง.ควรจะมีการลดดอกเบี้ย อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ใน trend เดียวกันกับประเทศอื่นๆ ไม่ควรฝืน trend ของโลก หากเราฝืนจะส่งผลกระทบทั้งในด้านของความผันผวนของค่าเงิน การไหลเข้าออกของเงิน รวมไปถึงการส่งออก"นายทนง กล่าว
ทั้งนี้ นายทนง มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ราว 3-3.5% ได้รับแรงผลักดันหลักจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ แต่เชื่อว่าการเบิกจ่ายงบประมาณในปีนี้คงจะทำได้ราว 80% เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบ และมีขั้นตอนต่างๆ ค่อนข้างมาก ดังนั้น เศรษฐกิจปีนี้คงไม่เติบโตถึง 4% ตามที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ ขณะที่การส่งออกน่าจะยังไม่ดีนัก เพราะทั่วโลกยังอยู่ในภาวะของเงินฝืด ส่วนของราคาพืชผลทางการเกษตรยังตกต่ำ ไม่ได้เป็นผลมาจากการลดลงตามฤดูกาล แต่มาจากการที่ภาครัฐหยุดอุดหนุน อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาวะดังกล่าวจะเป็นแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น ซึ่งทางภาครัฐต้องหาทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว