ทั้งนี้ หลักการลงทุนจะใช้รูปแบบ EPC (Engineering Procurement Construction) ซึ่งงานแต่ละส่วนของมีการจัดสรรบริษัทไทยและบริษัทของจีน ร่วมกันทำ ยกเว้นงานก่อสร้างที่ใช้เทคนิคสูง เช่น การเจาะอุโมงค์ งานวางระบบรางและระบบอาณัติสัญญาณ ที่จะต้องให้ทางจีนเป็นผู้ดำเนินการหลัก ส่วนเงินลงทุนนั้น เบื้องต้นการเจรจาร่วมกันเห็นว่าจีนควรคิดอัตราดอกเบี้ยราว 2% โดยรัฐบาลไทยมีฐานะเป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งราละเอียดต่าง ๆ จะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งที่ กรุงเทพฯ ในวันที่ 10-11 มี.ค.นี้
ส่วนผลการเดินทางร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 8-10 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น หลังจากนี้ ฝ่ายไทยจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับทางการญีปุ่นเพื่อพัฒนาระบบรางร่วมกันตามข้อตกลงที่ได้ลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง(MOI)สองฝ่าย ทั้งนี้ ไทยเสนอข้อมูลเส้นทางรถไฟให้ทางญี่ปุ่นพิจารณา 3 เส้นทาง คือ 1.แม่สอด -พิษณุโลก-ขอนแก่น-มุกดาหาร ระยะทาง 770 กม. 2. พุน้ำร้อน -จ.กาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-มาบตาพุด ระยะทาง 339 กม. และ 3.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 653 กม.เบื้องต้นจะให้ญี่ปุ่นเลือก 1 เส้นทาง ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าทางญี่ปุ่นจะเลือกเส้นทางใด