(เพิ่มเติม) PwC เผยซีอีโออาเซียนมั่นใจเศรษฐกิจโดดเด่น-เปิด AEC หนุน,รายได้โตสูงสุด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 17, 2015 11:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิระ อินทรกำธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจ Global CEO Survey ครั้งที่ 18 ระบุว่า ซีอีโออาเซียนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกและรายได้ของบริษัทปีนี้จะเติบโตสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจของซีอีโอทั่วโลก โดยผู้นำธุรกิจอาเซียนถึง 49% เชื่อว่าเศรษฐกิจโลก (Global economy) จะดีขึ้นในช่วง 12 เดือนหน้า เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ 45% และสูงกว่าความเชื่อมั่นของซีอีโอโลกโดยเฉลี่ยที่ 37%

ทั้งนี้ PwC ได้สำรวจล่าสุด 18th Annual Global CEO Survey: A marketplace without boundaries? Responding to disruptionที่ใช้ในการประชุมสมัชชาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) ณ กรุงดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประจำปี 58 ระหว่างเดือน ก.ย.-ธ.ค.57 โดยได้สำรวจความคิดเห็นของซีอีโอทั่วโลกจำนวน 1,322 รายใน 77 ประเทศ ในจำนวนนี้เป็นซีอีโอจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 76 รายใน 7 ประเทศ

นายศิระ กล่าวว่า ซีอีโอในอาเซียนมองว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคตัวเอง และเศรษฐกิจในประเทศหลักจะฟื้นตัว กอปรกับเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การขยายตัวของสังคมเมืองและกำลังซื้อของชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้

“ผมมองว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนในปี 58 น่าจะเติบโตจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก และภายหลังจากเราก้าวเข้าสู่เออีซี น่าจะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น เพราะภูมิภาคเราถือเป็นฐานการผลิตสำคัญของหลายๆ อุตสาหกรรม"นายศิระ กล่าว

นายศิระ กล่าวว่า วันนี้ภาคธุรกิจอาเซียนมีความเชื่อมั่นมากกว่า 3 ปีที่ผ่านมา แม้ทิศทางเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบาง มีเพียงสหรัฐที่ฟื้นตัวชัดเจน เชื่อว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคเรายังคงขยายตัวต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการเปิดเสรีการค้าอาเซียนในปลายปีนี้ น่าจะส่งผลให้การค้าและการลงทุนมีความคึกคัก สามารถดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บทบาทของจีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักอันดับที่ 1 ของไทย ที่กำลังดำเนินนโยบาย Going out Policy หรือผลักดันให้ธุรกิจจีนขยายการลงทุนไปต่างประเทศทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากจีนเข้ามาอาเซียนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ รวมถึงไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการย้ายฐานการผลิต

อย่างไรก็ดี CEO อาเซียนเห็นว่ามี 3 ปัจจัยที่ยังเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายมากที่สุด คือ ความวุ่นวายทางการเมือง, นโยบายการจัดเก็บภาษีที่เข้มข้นขึ้น และการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไป ขณะที่อุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน คือ ปัญหาการติดสินบนและคอร์รัปชั่น รองลงมา คือการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ CEO กังวลมากที่สุดในปีนี้

"เรื่องการเมืองถือเป็นปัจจัยต้นๆ ที่ CEO กังวลอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เชื่อว่าวันนี้เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เราหวังว่าโรดแมพของ คสช.จะทำให้ไทยผ่านพ้นไปได้ และไทยจะก้าวเข้ามาโดดเด่นในอาเซียนได้"

นายศิระ กล่าวว่า จากผลการสำรวจยังมีประเด็นที่น่าสนใจคือ ปีนี้ประเทศไทยเป็นตลาดในอันดับ 4 ที่ธุรกิจชั้นนำทั่วโลกให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น รองจากอินโดนีเซีย, เม็กซิโก และโคลัมเบีย โดยสาเหตุที่ไทยถือว่าเป็นตลาดที่ติดอันดับต้นๆ ของความน่าสนใจเข้ามาลงทุน เพราะ 1.ไทยกำลังเข้าสู่การเปิด AEC 2.ไทยมีศักยภาพในเรื่องของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ถือว่าอยู่ศูนย์กลางของกลุ่มประเทศใน AEC ที่หลายประเทศมองว่าไทยน่าจะเป็น Hub ในอาเซียนได้ ทั้งนี้ภาคธุรกิจของไทยจำเป็นต้องมีการปรับทักษะและคุณภาพแรงงานเพื่อให้แข่งขันกับสากลได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ