นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.56/62 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเมื่อเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.55/57 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดเงินของหลายประเทศปิดทำการชั่วคราว อย่างไรก็ดีในคืนนี้คงต้องติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ว่าจะมีการให้ความเห็นอย่างไรในการดำเนินนโยบายการเงินต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งหากแนวโน้มออกมาดีก็อาจจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
"วันนี้เงินบาทน่าจะนิ่งๆ เพราะหลายตลาดหยุดทำการในเทศกาลตรุษจีน คงต้องรอดูคืนนี้ที่จะมีรายงานการประชุมของ FOMC ว่าจะมีคอมเมนท์อะไรออกมาบ้าง ซึ่งหากทิศทางออกมาดี ดอลลาร์ก็อาจจะแข็งค่าขึ้น" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบ 32.55-32.65 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.05 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 118.80 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1370 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1382 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5770 บาท/ดอลลาร์
- ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้(17 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าจะมีทางออกที่เหมาะสมในการคลี่คลายปัญหาหนี้กรีซ โดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรีซรายหนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลกรีซเชื่อว่าการบรรลุข้อตกลงแก้ไขวิกฤตการณ์หนี้กับสหภาพยุโรป(EU) ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่กรีซจะไม่ยอมรับการยื่นกำหนดเส้นตาย หลังการประชุมเมื่อต้นสัปดาห์สิ้นสุดลงโดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะไม่ยุติการให้เงินกู้ฉุกเฉินต่อธนาคารของกรีซในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ระหว่างกรีซและยูโรโซน
- ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาย่ำแย่ โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลงสู่ระดับ 55 ในเดือน ก.พ. จากระดับ 57 ในเดือน ม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 และต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวขึ้นแตะ 58 ในเดือน ก.พ.
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 143.65 จุด เมื่อเวลาประมาณ 09.10 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการเจรจาระหว่างกรีซและยูโรโซนเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซจะลุล่วงไปด้วยดี
- เมอร์ริล ลินช์ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากที่สุดในรอบเกือบ 8 ปีต่อหุ้นของยูโรโซน โดยมองว่าการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและเอกชนในยุโรป จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างมาก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 75 เซนต์ ปิดที่ 53.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 62.53 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 63 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2557