วันนี้เงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบ โดยระหว่างวันอ่อนค่าสุดที่ 32.60 บาท และแข็งค่าสุดที่ 32.56 บาท คาดว่าพรุ่งนี้ตลาดจะเงียบมากกว่านี้ เนื่องจากตลาดเงินของหลายประเทศในภูมิภาคจะปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนคืนนี้ที่จะมีการรายงานผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) นั้นคาดว่าไม่น่าจะมีข้อมูลอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมหรือทำให้ตลาดเซอร์ไพรส์
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.60 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.15 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.05 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1393 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1370 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,603.14 เพิ่มขึ้น 15.39 จุด(+0.97%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 39,113 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 494.16 ล้านบาท(SET+MAI)
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25-0.50% จะไม่เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่อาจจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกเล็กน้อย เพราะเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลงเงินบาทก็จะอ่อนค่าลง ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจยังจำเป็นต้องใช้นโยบายการคลังเข้ามาช่วย โดยเฉพาะการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ
ส่วนกรณีธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เมื่อวานนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก และเป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดูแลอยู่แล้ว
- บริษัท Rating and Investment Information, Inc.(R&I) จัดอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยสกุลเงินต่างประเทศ(Foreign Currency Issuer Rating) และสกุลเงินบาท(Domestic Currency Issuer Rating) ที่ระดับ BBB+ และ A- ตามลำดับ และคงสถานะมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็นลบ(Negative Outlook) นอกจากนี้ยังยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้รัฐบาลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศที่ระดับ a-2
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.6% แตะ 379.14 เมื่อเวลา 08.43 น.ตามเวลาลอนดอน เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่ากรีซและเจ้าหนี้อาจจะบรรลุข้อตกลงในเรื่องโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน โดยมีรายงานข่าวออกมาว่า กรีซอาจจะยื่นเรื่องขอให้มีการขยายระยะเวลาในการให้สินเชื่อออกไปอีก 6 เดือน
- รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ชี้ว่า บอร์ดธนาคารกลางอังกฤษลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมเมื่อต้นเดือนก.พ. แต่บอร์ดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลก และช่วงเวลาของการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายฯ 2 รายมองว่า ในการประชุมครั้งต่อไปควรจะมีการพิจารณาเรื่องจังหวะเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่บอร์ดอีก 2 รายมองว่า การคงอัตราดอกเบี้ยไว้จะช่วยสร้างสมดุล