โดยหนึ่งในแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ที่กำลังเร่งดำเนินการ นั่นคือการกำหนดให้มีการจดทะเบียนเรือประมงและออกใบอนุญาตทำการประมง(การออกอาชญาบัตร) ให้กับเรือประมงของไทยทุกลำเพื่อให้ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ซึ่งเป็นการบูรณาการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกรมประมง, กรมเจ้าท่า และกรมการปกครอง โดยได้มีจัดหน่วยเคลื่อนที่แบบเบ็ดเสร็จ(One Stop Service) ในระดับอำเภอรวมทั้งสิ้น 112 หน่วย ครอบคลุมพื้นที่ใน 23 จังหวัดชายทะเล ออกปฏิบัติงานพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค.-28 ก.พ.58
ด้านนายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเรือประมงเข้ารับการจดทะเบียนแล้ว จำนวน 6,017 ลำ จากเป้าหมาย 12,258 ลำ คิดเป็นร้อยละ 49 ทำให้ขณะนี้มีเรือประมงที่จดทะเบียนแล้วรวม 53,268 ลำ และสามารถออกอาชญาบัตรการทำประมงได้จำนวน 11,312 ลำ จากจำนวนเป้าหมาย 19,107 ลำ คิดเป็นร้อยละ 60 รวมจำนวนเรือทั้งหมดที่มีใบอนุญาตทำการประมงรวม 29,579 ลำ โดยกรมประมงจะเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้
นอกจากนี้ ในการออกหน่วยเคลื่อนที่ กรมประมงยังได้ประกาศให้เรือประมงทุกประเภทมาจดแจ้งเครื่องมือประมงที่มีอยู่ในครอบครองและแสดงความประสงค์การใช้เครื่องมือประมงของตน พร้อมทั้งสำรวจและลงพิกัดตำแหน่งท่าเทียบเรือที่เรือประมงไทยนำสัตว์น้ำขึ้นท่าด้วย เพื่อรวบรวมข้อมูลเรือประมงทุกประเภทและท่าเทียบเรือสำคัญ สำหรับใช้ในการจัดระเบียบเรือประมงให้เหมาะสม และใช้สำหรับวางแผนการควบคุมการทำประมง IUU ณ ท่าเทียบเรือต่อไป
"สำหรับชาวประมงท่านใดที่ยังไม่ได้มาขอจดทะเบียนเรือประมงและขอใบอนุญาตทำการประมง รวมทั้งรับการจดแจ้งการมีเครื่องมือประมงไว้ในครอบครอง และแสดงความประสงค์ในการใช้เครื่องมือประมง สามารถขอรับบริการได้ที่หน่วยบริการเคลื่อนที่ทั้ง 112 แห่ง ตลอดชายฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามันได้จนกระทั่งถึงวันที่ 28 ก.พ.58 นี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาการทำประมง IUU ได้ทันตามระยะเวลาที่สหภาพยุโรป(EU) กำหนด" นายจุมพล กล่าว