พาณิชย์วางมาตรการรับมือปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ เล็งกระจายตลาดทั้งใน-ตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 20, 2015 14:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ เตรียมมาตรการรองรับปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำหากเกินความต้องการของตลาด โดยตลาดในประเทศจะกระจายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและตลาดชุมชน ส่วนตลาดต่างประเทศเตรียมจัดคาราวานผลไม้ไปประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมทั้งส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้าของจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ

"เพื่อเตรียมการรับมือผลไม้ที่จะออกสู่ตลาดตามฤดูกาลที่จะถึง กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อประสานเชื่อมโยงข้อมูลด้านการผลิตและการตลาดในสินค้าข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลไม้ ปาล์มน้ำมัน และยางพารา เพื่อให้สามารถวางแผนการดำเนินงานได้ถูกต้องมีประสิทธิภาพที่สุด โดยจะมีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับการพยากรณ์ปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดฤดูกาลนี้ในวันที่ 2 มีนาคมนี้" นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าว สำหรับสถานการณ์การผลิตผลไม้ภาคตะวันออกในปี 2558 คาดว่าจะออกสู่ตลาดล่าช้ากว่าปีที่แล้วประมาณ 1 เดือน เพราะสภาพดินฟ้าอากาศที่ผันผวน ซึ่งใน จ.จันทบุรี เป็นแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมังคุดจะออกสู่ตลาดในเดือน มี.ค. ส่วนเงาะและทุเรียนจะออกสู่ตลาดในเดือนถัดมาตามลำดับ สำหรับลองกองคาดว่าจะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. กรกฎาคม-สิงหาคม ซึ่งผลไม้ของภาคตะวันออกเป็นสินค้าที่ทำรายได้เข้าประเทศเฉลี่ยปีละเกือบ 20,000 ล้านบาท ส่วนผลไม้ภาคใต้ และภาคเหนือ จะออกช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.

โดยตลาดในประเทศจะกระจายไปยังตลาดปลายทางนอกแหล่งผลิตต่างๆ ได้แก่ ห้าง Modern Trade ตลาดกลางในภูมิภาค ตลาดชายแดนติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน ตลาดชุมชน และศูนย์จำหน่ายสินค้าเกษตรชุมชน(Farm Outlet), การส่งเสริมและรณรงค์การบริโภคผลไม้ โดยร่วมมือกับภาคราชการและเอกชนในการจัดเทศกาลผลไม้ จัดงานร่วมกับสินค้า OTOP ในสถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และการส่งเสริมให้มีการแปรรูปผลไม้มากขึ้น และส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรมีการพัฒนาคุณภาพผลไม้แปรรูป

ส่วนตลาดต่างประเทศจะจัดให้ผู้ประกอบการค้าผลไม้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศ เช่น ลาว เวียดนาม อินเดีย มาเลเซีย เป็นต้น, จัดคาราวานสินค้าผลไม้ ผลไม้แปรรูป และสินค้า OTOP ไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน, ส่งเสริมการขายสินค้าภายในห้าง (Instore Promotion) เช่น จีน กัมพูชา ญี่ปุ่น อเมริกา และอิตาลี เป็นต้น

"ตลาดหลักคือ จีน เวียดนาม ฮ่องกง ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนโดยรวม 77.76 ของตลาดส่งออกทั้งหมด โดยมีคู่แข่งที่สำคัญคือ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นชาติในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน แต่สำหรับตลาดที่มีการขยายตัวสูงคือ พม่า และเกาะมัลดีฟส์" นางดวงกมล กล่าว

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผักผลไม้ทั้งในประเทศและที่ส่งออกต่างประเทศจำเป็นต้องคำนึงถึงต้นทุนและมาตรการนำเข้าของแต่ละประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดเพื่ออำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหา และการแจ้งเตือนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในตลาดต่างๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ