นักเศรษฐศาสตร์ประเมินผลการบริหารงานด้านเศรษฐกิจในภาพรวมของรัฐบาล ได้ 5.62 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 10) โดยได้คะแนนมากที่สุดในด้านการบริหารจัดการค่าเงินบาท และเสถียรภาพค่าเงินบาท ที่ 6.51 คะแนน ขณะที่ได้คะแนนน้อยที่สุดในด้านการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม (จีดีพี) ที่ 5.19 คะแนน
ทั้งนี้ คะแนนภาพรวมที่ได้ เป็นคะแนนที่สูงกว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งได้ 4.08 คะแนน และสูงกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ 5.12 คะแนน
ส่วนการประเมินผลงานตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ โดยภาพรวม พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ 6.62 คะแนน นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ 6.15 คะแนน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้ 6.07 คะแนน และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ 5.20 คะแนน ส่งผลให้รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจได้คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 5.69 คะแนน
ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ 7.54 คะแนน ซึ่งเป็นระดับคะแนนสูงสุด และเพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2556 ที่ได้ 7.11 คะแนน
ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ร้อยละ 34.8 ยังเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรมีการปรับคณะรัฐมนตรี เนื่องจากรัฐมนตรีไม่มีความเชี่ยวชาญจริง กรอบการทำงานแคบ ทำงานแบบราชการ ขาดแนวคิดใหม่ๆ เห็นว่าควรให้มืออาชีพ มีความเชี่ยวชาญ เข้ามาทำหน้าที่แทน นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการปฏิบัติงานล่าช้า งานไม่มีความก้าวหน้าเท่าที่ควร ขณะที่ร้อยละ 21.2 เห็นว่าไม่ควรปรับ ทั้งนี้ เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย และโครงการต่างๆ ซึ่งต้องใช้เวลา รวมทั้งรัฐบาลชุดนี้มีเวลาทำงานน้อย ตามโรดแมปที่ได้ประกาศไว้ จึงไม่ควรมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี