รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการพบหารือของ รมต.เศรษฐกิจอาเซียนครั้งแรกของปีนี้ โดยมีประเด็นหลักๆที่จะหารือ ได้แก่ การเร่งรัดดำเนินมาตรการตามแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้เสร็จได้ทันภายในสิ้นปีนี้ แนวทางการลดเลิกมาตรการที่มิใช่ภาษี ซึ่งมีความสำคัญต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง โดยในระหว่างการประชุมจะมีการพบหารือกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่ภาคเอกชนต้องการให้แก้ไขด้วย รวมทั้งจะมีการหารือวิสัยทัศน์ในการก้าวไปข้างหน้าของอาเซียน ภายหลังปี 2558 โดยจะมุ่งหวังให้การรวมตัวทางเศรษฐกิจมีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งรักษาความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องสำคัญที่ทั่วโลกจับตามอง คือการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership หรือเรียกว่า “RCEP" หรือ ASEAN+6 FTA (ระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย) ซึ่งหากเจรจาได้สำเร็จจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้าและการลงทุน การปรับประสานกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลงที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยประเด็นหลักของการเจรจา ได้แก่ การค้าสินค้า บริการและการลงทุน และมีเป้าหมายคาดว่าจะสรุปการเจรจาได้ภายในสิ้นปีนี้
ปัจจุบันอาเซียนเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยในปี 2557 มีมูลค่าประมาณ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 22 ของการค้าไทยกับทั่วโลก ทั้งนี้ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์