นอกจากนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้เยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมเมืองมัณฑะเลย์ และเดินทางไปยังเมืองTamu (ตามู) ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของเมียนมาร์ที่มีพื้นที่ติดต่อกับเมือง Moirang ของอินเดีย Tamu – Moirang เป็นเมืองสำคัญของการขนส่งสินค้าผ่านพรมแดนเมียนมาร์ – อินเดีย สินค้าอุปโภคบริโภคของไทย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า สิ่งทอ รองเท้า สุขภัณฑ์ และแบตเตอรี่ ผ่านเข้าอินเดียโดยใช้เส้นทางนี้ รวมทั้งจะได้ร่วมสัมมนาหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและสร้างเครือข่ายการลงทุนกับผู้ประกอบการท้องถิ่นสาขาเกษตร ยางพารา พืชสวน วัสดุก่อสร้างและการท่องเที่ยวของเมือง Dibrugarh (ดิบูร์การ์) รัฐอัสสัมของอินเดียอีกด้วย
สำหรับการเดินทางเยือนอินเดีย ผู้ประกอบการไทยจะได้ร่วมหารือเรื่องโอกาสการลงทุนของไทย กับหอการค้าเมืองอิมฟาว รัฐมณีปุระ และสำรวจตลาดการค้าในเมือง ดิมาร์ปูร์ เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐนากาแลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตร รวมทั้งเดินทางไปยังเมืองดิสบูร์การ์ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ การผลิตไฟฟ้า และร่วมหารือกับผู้ประกอบการท้องถิ่นสาขาการเกษตร ยางพารา พืชสวน สินค้าอุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้างและการท่องเที่ยวในดิสบูร์การ์
"มั่นใจว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนกับเมียนมาร์และอินเดียได้ ที่สำคัญยังได้สำรวจเส้นทางคมนาคมเป้าหมายใหม่ ๆ อย่าง ASEAN Highway 1 ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญเชื่อม 3 ประเทศ จากรัฐมณีปุระในอินเดีย มายังมัณฑะเลย์ของเมียนมาร์ และเข้าสู่อำเภอแม่สอดของไทย ซึ่งในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการไทยมีเทคโนโลยีและความชำนาญ สามารถเข้าไปลงทุนและต่อยอดทางธุรกิจได้" นายเจษฎา กล่าว