สำหรับความจำเป็นที่รัฐบาลต้องจัดเก็บภาษีดังกล่าวนั้น เป็นเพราะอัตราการเพิ่มของรายจ่ายภาครัฐมีสูงกว่าอัตราการเพิ่มของรายได้ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการนี้เชื่อว่าจะดีกว่าการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ซึ่งประชาชนไม่ควรเป็นกังวลต่อการถูกเรียกเก็บภาษีบ้าน เพราะเชื่อว่าในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาคงจะมีข้อยกเว้นอีกมาก
อย่างไรก็ดี ภาษีที่ดินกว่าจะมีผลบังคับใช้จริงอาจต้องใช้เวลาอีก 2 ปี เพราะต้องให้สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(GISDA) ไปสำรวจแผนที่ของสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดทั่วประเทศก่อน ขณะที่กรมธนารักษ์จะทำหน้าที่ในการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศเช่นกัน
ส่วนการปรับขึ้นภาษี VAT นั้น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่ถ้าเก็บภาษีที่ดินได้ก็น่าจะมาทดแทนกันได้ อย่างไรก็ดี ต้องขอรอดูการรายงานตัวเลขการจัดเก็บภาษีในเดือน ก.พ.58 ก่อน และยอมรับว่าอาจจะจัดเก็บได้น้อยกว่าเดือนม.ค.58 แต่หากเก็บได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 7-8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ถือว่าประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น แม้ว่าตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.พ.จะปรับลดลงก็ตาม