“ความตกลงในปีนี้ทางสภาพัฒนาฯเพิ่มข้อเสนอใหม่ โดยให้พื้นที่การสั่งซื้อสินค้าบนเว็ปไซด์www.hktdc.com ให้กับผู้ประกอบการไทย 100 รายแรกและยังเพิ่มการสนับสนุนให้ครอบคลุมประเภทของอุตสาหกรรมมากขึ้น ได้แก่ เครื่องประดับแฟชั่น อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ(ไอซีที) ซึ่งจะเป็นการขยายช่องทางตลาดใหม่และลดต้นทุนสินค้าให้ผู้ประกอบการ SMEsไทยมีโอกาสออกสู่ตลาดโลกได้มากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีพาณิชย์ดิจิตอล อี-มาร์เก็ตติ้งและเป็นการเพิ่มการเชื่อมต่อลูกค้า Thaitrade.com กับคู่ค้าระดับโลกอย่าง www.hktdc.com เป็นต้น"นางนันทวัลย์ กล่าว
นอกจากนี้กรมฯยังได้เข้าเยี่ยมชมพาวิลเลี่ยนภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของฮ่องกงซึ่งแบ่งเป็น 2 งาน คือ งานแสดงสินค้าเพชร พลอยและมุกนานาชาติ(Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show : HKIDGPS)กับงานแสดงสินค้าอัญมณี(Hong Kong International Jewellery Show: HKIJS)ของพันธมิตรในอุตสาหกรรมนี้ อาทิ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน ตุรกี อเมริกา อิตาลี ฝรั่งเศส อินเดีย รวม 4,366 บริษัท โดยมีบริษัทจากไทย 366 บริษัทเพื่อสำรวจตลาดความต้องการของผู้บริโภคและนำมาพัฒนาการงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทย
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ยังมาส่งเสริมสินค้าอาหารและร้านอาหารไทยในฮ่องกง ตามโครงการไทยซีเล็ค(Thai Select) เพื่อเผยแพร่อาหารไทยที่มีรสชาติไทยแท้ โดยใช้วัตถุดิบและส่วนประกอบการปรุงอาหารของไทยประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของอาหารไทยและเผยแพร่อาหารไทยสู่ผู้บริโภคชาวต่างประเทศรวมถึงการบริการและสินค้าไทยที่ใช้ตกแต่งร้าน
ปัจจุบันร้านอาหารไทยในต่างประเทศ มีจำนวนกว่า 13,948 ราย ซึ่งกรมได้มอบตรา Thai Select ให้แก่ร้านอาหารไทยทั่วโลกไปแล้ว จำนวน 1,516 ราย แบ่งเป็นภูมิภาคยุโรป 477 ราย อเมริกา 644 ราย ตะวันออกกลาง/แอฟริกา 36 ราย อาเซียน 34 ราย เอเชีย 281 ราย (ฮ่องกง 19 ราย และมาเก๊า 7 ราย) และ โอเชียเนีย 78 ราย ขณะเดียวกันได้มอบตรา Thai Select ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป 174 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งพิจารณาต่ออายุตรา Thai Select ทุก 3 ปี