"กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการผลักดันการค้าชายแดนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะใช้โอกาสและประโยชน์จากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งแล้ว 6 แห่งใน จ.ตาก มุกดาหาร สระแก้ว สงขลา ตราด และหนองคาย โดยจะจัดกิจกรรมร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ติดกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ในการเพิ่มความร่วมมือในการขยายการค้า ซึ่งได้จัดไปแล้วที่ จ.ตาก และจัดที่มุกดาหารในครั้งนี้ โดยมีแผนจะจัดตั้งพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว
ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันในการเพิ่มกลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุกระดับ เพื่อกระตุ้นการค้า การลงทุน โลจิสติกส์ การค้าปลีก ค้าส่ง และธุรกิจบริการ และยังได้เป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนไทย-ลาวที่จะร่วมมือกันในการขยายการค้า การลงทุน การลงนามในบันทึกความเข้าใจในการจัดตั้งโรงพยาบาลของไทยในเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวันเซโน และการติดตามความคืบหน้าการจัดทำเมืองคู่แฝดระหว่างมุกดาหารกับแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งได้ร่วมมือกันมาแล้ว 11 ปี นอกจากนี้ยังมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างไทย-ลาว จำนวน 44 คู่ รวมมูลค่ากว่า 185 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค เช่นเสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป และปุ๋ยเคมี
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ในโอกาสนี้กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ระหว่างวันที่ 5-9 มี.ค.58 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร โดยนำสินค้าคุณภาพดี ราคาถูก จากผู้ประกอบการไทย และผู้ประกอบการเพื่อนบ้าน ทั้งสปป.ลาวและเวียดนาม มาจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ทั้งไทยและสปป.ลาว เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการค้าการ การหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และช่วยลดภาระ ค่าครองชีพ โดยคาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการการค้าชายแดนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
"การจัดมหกรรมการค้าชายแดนครั้งนี้ ผู้ผลิตได้นำสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด มาจำหน่ายให้กับ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งไทยและสปป.ลาว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประชาชนได้เดินทางการมาเลือกซื้อ เลือกหาสินค้ากันเป็นจำนวนมาก โดยกระทรวงพาณิชย์มีแผนจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ไปยังพื้นที่ติดชายแดนอื่นๆ ต่อไป เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าชายแดน" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว