ในการเจรจาขยายการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายจะตั้งผู้แทนเพื่อเข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารร่วม(Joint Steering Committee) โดยมี รมว.พาณิชย์ เป็นประธานฝ่ายไทย และมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเข้าร่วมกับคณะผู้แทนฝ่ายจีน เพื่อกำกับดูแลการดำเนินการตาม MOU
ในเรื่องของราคานั้น ทางไทยยืนยันว่าจะขายในราคาตลาด โดยข้าวที่จีนต้องการเป็นข้าวขาว 5% เป็นข้าวเก่าและข้าวใหม่อย่างละ 1 ล้านตัน ขณะที่คณะกรรมที่ดูแลเรื่องการซื้อขายสินค้ายางพารานั้น จะหารือเรื่องรายละเอียด เงื่อนไข และวิธีการต่างๆ โดยในเรื่องของราคานั้นทางไทยจะเสนอขายให้จีนในราคามิตรภาพ
ทั้งนี้ หลังการหารือในวันที่ 11 มี.ค.นี้แล้วจะมีการสรุปผลการหารือในวันที่ 12 มี.ค.58 ต่อไป โดยที่ MOU ฉบับนี้เป็น MOU ที่สำคัญยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นข้าวไทย ซึ่งในอดีตไทยส่งออกข้าวไปจีนปีละประมาณ 500,000 ตัน และผลจาก MOU ฉบับนี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยไปตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น
สำหรับการหารือในครั้งต่อไปนั้น จะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 6 พ.ค.58 ที่กรุงปักกิ่ง โดยฝ่ายจีนจะเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเรื่องสัญญาการลงทุนในโครงการรถไฟ และอาจจะมีการลงนามการซื้อขายสินค้าเกษตรในรายการอื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากข้าว และยางพาราด้วย