นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.90/95 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.70/71 บาท/ดอลลาร์
โดยวันนี้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงมากในช่วงบ่าย หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาสู่ระดับ 1.75% จึงทำให้นักลงทุนเทขายเงินบาทเพื่อเข้าซื้อดอลลาร์
"บาทอ่อนค่าลงไปมาก หลังจากกนง.ลดดอกเบี้ย ทำให้มีการขายเงินบาทเพื่อเข้าซื้อดอลลาร์กันมาก" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ แต่คงจะไม่หลุดไปที่ระดับ 33 บาท โดยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.80-33.00 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.48/50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 121.30 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0598 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0700 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,543.84 เพิ่มขึ้น 12.80 จุด (+0.84%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 53,834 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,846.50 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 1.75% จากเดิม 2.00% โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงกว่าที่ประเมินไว้โดยแรงกระตุ้นจากภาคการคลังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลชัดเจน และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป คาดว่าจะอยู่ในระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่ง ภายใต้ภาวะดังกล่าวกรรมการ 4 คนเห็นว่านโยบายการเงินควรผ่อนคลายเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจ และช่วยพยุงความเชื่อมั่นของภาคเอกชน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย และการส่งออกของไทยในปี 58 ใหม่อีกครั้งในวันที่ 20 มี.ค.นี้ จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะโตได้ 4% และการส่งออกโตได้ 1%
- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยืนยันว่าแผนการผลิตรถยนต์ในประเทศปีนี้ยังคงเป็นไปตามที่วางไว้ โดยไม่มีแนวคิดที่จะปลดพนักงานทั้งพนักงานประจำและพนักงานพาร์ทไทม์ ซึ่งบริษัทคาดว่าในปีนี้ตลาดรวมรถยนต์ของไทยจะมียอดขายราว 9.2 แสนคัน ขณะที่โตโยต้าคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดราว 40% หรือมียอดขายประมาณ 3.3 แสนคัน
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ระบุ เตรียมปรับฐานราคาประเมินอสังหาริมทรัพย์ใหม่ รวมทั้งเกณฑ์ผ่อนผันยกเว้นเพิ่มขึ้น สำหรับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง โดยจะเอาเข้า ครม.เศรษฐกิจรอบหน้า แต่ยืนยันการตัดสินใจผลักดันเรื่องดังกล่าวมีความเหมาะสมกับช่วงเวลาแล้ว เพราะกฎหมายจะมีผลบังคับใช้ในอนาคตอีกอย่างเร็ว 2 ปี
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน(NBS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของจีนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558 ปรับตัวขึ้น 10.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 4.8 ล้านล้านหยวน (7.79 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
- ผลการสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน (CFO) ทั่วโลก ซึ่งจัดทำโดย Duke University/CFO Magazine Global Business Outlook ระบุว่า ผู้บริหารส่วนใหญ่มองว่าการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกของประเทศ และอาจจะเป็นอุปสรรคต่อแผนการลงทุนของบริษัทในปีหน้า
ทั้งนี้ ปัจจัยล่าสุดที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นนั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด
- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลงสู่ระดับ 52.15 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 55.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะเดียวกัน EIA คาดว่า ราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ WTI ในปี 2559 จะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 20 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,760 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,272.11 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง