นอกจากนี้ ไทยยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อพัฒนาให้อาเซียนมีความมั่นคงเข้มแข็งและมีความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเห็นได้จากความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับคู่เจรจา สำหรับการส่งเสริมความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจได้ส่งเสริมพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งคมนาคม รวมถึงระบบถนน รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า และการขยายโครงข่ายหลักระบบดิจิตอล ขณะที่การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะส่งผลให้ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียนและภูมิภาคอื่น ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าและจะเกิดเป็นรูปธรรมในปีนี้
ขณะเดียวกัน ยังมีการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ เพื่อระดมทุนในตลาดทุนสากลมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นการลดใช้งบประมาณของรัฐ ส่วนการบริหารและพัฒนาประเทศรัฐบาลยึดตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งหากบรรลุผลจะสร้างความสุขและรายได้ให้ประชาชนทุกคนอย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการความพร้อมรองรับการค้าการลงทุนจากนานาประเทศ ด้วยการลดขั้นตอนและกฎหมายที่ซับซ้อนและมีมาตรการส่งเสริมสร้างแรงจูงใจ ที่ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของอาเซียน ที่ไทยมุ่งมั่นสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าสู่ภูมิภาค นอกจากนี้ไทยยังมุ่งมั่นเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ การผลิต และการคมนาคม
นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ทุกประเทศช่วยกันทำให้ประชาคมโลกสงบสุข อย่าเน้นเพียงตัวเลขทางเศรษฐกิจ แต่ต้องคำนึงถึงความสุขของประชาชน รวมทั้งการช่วยลดความขัดแย้งด้วยการดูแลแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เป็นปัญหาหลักของโลก พร้อมใช้โอกาสชี้แจงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ ว่าการแก้ปัญหาของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน โดยเปรียบเสมือนว่าไม่สามารถตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลกใส่ได้ และย้ำว่ารัฐบาลนี้ไม่เคยปิดกั้นพร้อมร่วมมือกันในทุกมิติ และยินดีตัอนรับนักท่องเที่ยวทุกประเทศ โดยจะให้การดูแลเป็นอย่างดี