พร้อมย้ำว่า ยังไม่มีการยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศหรือในบางพื้นที่ เนื่องจากตามแนวชายแดนมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าร้อนใจในเรื่องนี้ แต่ไม่อยากให้ประชาชนเกิดความกังวล เพราะกำลังหาแนวทางให้บ้านเมืองเกิดความสงบ หากใครไม่ทำผิดไม่ต้องกลัว อีกทั้งชี้ว่า แม้ยังประกาศใช้กฎอัยการศึกก็ยังมีการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ทั้งลอบวางระเบิด เพราะกลุ่มที่ทำไม่กลัว ถึงแม้จะมีการกฎหมาย เช่นเดียวกับการรับร่างรัฐธรรมนูญหากเขียนให้ตายก็ไม่ยอมรับ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่ผ่านมาเคยมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็ยังมีการก่อเหตุเรื่อยมา แต่เมื่อมีการประกาศใช้กฎอัยการศึกก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งรัฐจำเป็นต้องมีกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อน
นอกจากนี้ ในที่ประชุมวันนี้ได้หารือถึงสิทธิประโยชน์ และกำหนดโรดแมพการดำเนินงานในแต่ละพื้นที่ให้มีอุตสาหกรรม หรือกิจการหลายอย่างที่สามารถลงไปดำเนินการได้ ทั้งภาคการผลิต การท่องเที่ยว การเกษตร ให้สามารถรวมกลุ่มกัน เพื่อสร้างงานและสร้างอาชีพ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อีกทั้งจะมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้เข็มแข็ง ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดจะทำให้ภาคผลิต อุตสาหกรรมแปรรูปเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความเข้มแข็ง ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ และต้องมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยยืนยันว่าจะต้องเกิดประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากที่สุด และจะต้องไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม