นอกจากนี้ยังมีกิจการที่สอดคล้องกับนโยบายการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตร เช่น น้ำมันปาล์มดิบ เชื้อเพลิงอัดแท่ง การผลิตถุงมือจากยางธรรมชาติ เป็นต้น รวมทั้งกิจการด้านระบบโลจิสติกส์ เช่น กิจการขนส่งทางเรือ เป็นต้น
"กิจการที่ยื่นขอรับส่งเสริมส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลและบีโอไอคาดหวังที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่การส่งเสริมการลงทุนที่มีคุณค่า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวพ้นการเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง" นางหิรัญญา กล่าว
นางหิรัญญา กล่าวว่า เพื่อให้เกิดการบูรณาการด้านข้อมูลการลงทุนอย่างแท้จริง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานบอร์ดบีโอไอ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการข้อมูลด้านการลงทุน เพื่อทำหน้าที่รวบรวม เชื่อมโยง และวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการลงทุน โดยเฉพาะปัจจัยด้านแรงงานทั้งในระดับมหภาคและรายสาขาอุตสาหกรรมที่สำคัญ และผลของการส่งเสริมการลงทุนที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกำหนดนโยบาย และวางแผนดำเนินการส่งเสริม การลงทุน รวมทั้งสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพต่อไป
สำหรับคณะอนุกรรมการฯ จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและเศรษฐกิจจำนวน 18 คน ประกอบด้วย รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธาน และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงแรงงาน, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.), การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นต้น