ประเด็นสำคัญ คือ ตลาดรถยนต์มีปริมาณการขาย ลดลง 10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 12.5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 9.6% เนื่องจากกำลังซื้อที่ยังไม่ขยายตัว อันเป็นผลมาจากภาวะภัยแล้งที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อผลิตผลทางการเกษตร ทำให้รายได้เกษตรกรทรงตัวในระดับต่ำ และส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อ
สำหรับตลาดรถยนต์สะสม 2 เดือน(ม.ค.-ก.พ.58) มีปริมาณการขาย 123,670 คัน ลดลง 11.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 12.0% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 11.7% เป็นผลต่อเนื่องมาจากภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย
ส่วนตลาดรถยนต์ในเดือน มี.ค.แนวโน้มทรงตัว จากเสถียรภาพทางการเมืองที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ควบคู่ไปกับจากการเร่งรัดการใช้จ่ายและการดำเนินโครงการที่สำคัญของภาครัฐ ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ จากค่ายรถยนต์ต่างๆ ตลอดจนการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในช่วงปลายเดือน มี.ค.ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญในการกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์
แต่อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือน ก.พ.ปรับตัวลง จากความกังวลต่อความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้เกิดความกังวลต่อการฟื้นตัวของการส่งออก รวมทั้งกำลังซื้อโดยรวมในประเทศมีสัญญาณชะลอตัว ส่งผลให้แนวโน้มตลาดรถยนต์ในเดือน มี.ค.ยังอยู่ในสภาวะทรงตัว