ขณะนี้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบขีดความสามารถของระบบสายส่งของประเทศ. โดยจะให้ความสำคัญกับการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของกลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ภาคพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ค้างท่อที่มีจำนวน 1,013 เมกะวัตต์ก่อนเป็นลำดับแรก โดยโซลาร์ฟาร์มค้างท่อมีกำหนดต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบทั้งหมดในปีนี้
"กกพ.ประกาศระเบียบออกมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ประกาศรับซื้อ เราวางเป้าหมายไว้ที่ 800 เมกะวัตต์ ส่วนจะเข้ามาได้เท่าไหร่ในปีนี้ ต้องดูศักยภาพสายส่งในปี 58 ว่าจะรับได้เท่าไหร่ ต้องดูตรงนี้ด้วย...อาจจะประกาศเป็นเฟส ต้องดูโซนนิ่งและระบบสายส่ง"นายสุชาลี กล่าว
นายสุชาลี กล่าวอีกว่ากระทรวงพลังงานมีเป้าหมายในช่วง 20 ปีข้างหน้าจะเพิ่มปริมาณรับซื้อไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกเท่าตัวจาก 3 พันเมกะวัตต์ในขณะนี้
ด้านนายภาวัน สยามชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บมจ.โซลาร์ตรอน (SOLAR) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่มสหกรณ์เพื่อเตรียมยื่นข้อเสนอในโครงการโซลาร์ส่วนราชการและสหกรณ์ เป็นจำนวน 200 เมกะวัตต์. โดยรอภาครัฐประกาศการรับซื้อที่ชัดเจนออกมา ขณะที่ในส่วนของโซลาร์ค้างท่อนั้น บริษัทมีโครงการร่วมทุนกับรายอื่นจำนวน 20-30 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ได้ไปยื่นความจำนงค์กับภาครัฐที่จะเดินหน้าโครงการต่อแล้ว
ทั้งนี้ รัฐบาลกำหนดให้กลุ่มโซลาร์ค้างท่อที่เหลือจำนวน. 1,013 เมกะวัตต์ ได้ยื่นเสนอขายไฟฟ้ามาก่อนหน้านี้ ให้มายื่นแสดงเจตจำนงเพื่อทำโครงการต่อภายในสิ้นเดือนมี.ค.58 หากมีผู้มายื่นไม่ครบก็จะตัดส่วนที่เหลือมาบริหารจัดการหรือเปิดรับซื้อใหม่ต่อไป