ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558 บพ.ได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ของ Japan Civil Aviation Bureau(JCAB) ว่าได้รับทราบผลการตรวจสอบของ ICAO โครงการ USOAP จากการที่ ICAO ได้นำ SSC ของประเทศไทยลงใน Secure website จึงแจ้งให้ บพ.ทราบว่านโยบายของ JCAB เกี่ยวกับผู้ขนส่งทางอากาศของประเทศที่ ICAO ได้ระบุ SSC ให้ทราบว่า
1) JCAB จะไม่อนุมัติให้มีการขยายหรือเปลี่ยนบริการขนส่งทางอากาศ ไม่ว่าจะในรูปการเพิ่มท่าอากาศยานหรือเปลี่ยนแบบอากาศยานที่จะให้บริการไปยังประเทศญี่ปุ่นตามบทบัญญัติในมาตรา 129-3
2) JCAB จะเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ Ramp service ตามข้อ 16 ของอนุสัญญาว่าด้วยการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (อนุสัญญาชิคาโก ค.ศ.1944)
ทั้งนี้ นโยบายของ JCAB มิได้กระทบถึงผู้ขนส่งทางอากาศของประเทศไทยที่ทำการบินแบบประจำ ซึ่งยังคงสามารถให้บริการขนส่งทางอากาศได้ตามปกติ โดย JCAB จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวเมื่อ ICAO ได้ระบุว่า SSC ได้รับการแก้ไขแล้ว การดำเนินการในกรณีนี้ถือเป็นมาตรการ ที่ JCAB ปฏิบัติกับทุกรัฐที่ ICAO ระบุว่ามี SSC
สำหรับสายการบินที่ได้ยื่นขอทำการบินแบบเช่าเหมาลำจากประเทศไทยไปยังญี่ปุ่น แต่ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาต ดังนี้
1) สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ไม่ได้รับอนุญาตให้เพิ่มสนามบินที่จะทำการบินไปในเส้นทางฮอกไกโด
2) สายการบินนก สกู๊ต ไม่ได้รับอนุญาตให้บินเช่าเหมาลำรับขนในช่วงสงกรานต์ ไปยังเมืองเกียวโต และโอซากา
3) สายการบิน เอเชีย แอตแลนติก ไม่ได้รับอนุญาตให้บินเช่าเหมาลำในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เช่นเดียวกัน
สำหรับแนวทางแก้ไข ณ ขณะนี้ ตัวแทน บพ.จะเดินทางไปชี้แจงกับประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 26 มีนาคม 2558 เพื่อทำความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงและแนวทางการดำเนินการของประเทศไทย ส่วนประเทศอื่นๆ บพ.จะได้ดำเนินการชี้แจงเกี่ยวกับสถานะด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบินในประเทศไทย รวมถึงการแก้ไขข้อบกพร่องจากการตรวจสอบดังกล่าวให้ทราบอย่างเร็วที่สุด