“เบื้องต้นคาดว่าจะใช้วงเงินในการดำเนินการส่วนนี้ประมาณ 500-1,000 ล้านบาท และคงเป็นการปล่อยลักษณะอัตราดอกเบี้ยต่ำ คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้" นายชาติ ชาย กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีมาตรการเพื่อช่วยแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล ซึ่งจะเริ่มเดินหน้าโครงการตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2558 ประกอบด้วย 4 โครงการ และใช้วงเงินดำเนินการรวมทั้งสิ้น 3.5 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย 1. โครงการสินเชื่อประชาชน ที่ให้วงเงินกู้เพิ่มเติมกับลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ดี 12 เดือนติดกัน สามารถกู้เพิ่มได้ 20% หรือวงเงินไม่เกิน 4 หมื่นบาทต่อราย
2. โครงการออมสู่ฝัน สำหรับลูกค้าที่มีประวัติการฝากเงินหรือการออมเงินมาก่อนอย่างต่อเนื่อง จะได้รับการปล่อยกู้พิเศษได้ 5 เท่า 3. โครงการสินเชื่อประชาชนสุขใจ ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างธนาคารและบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) วงเงินดำเนินการ 5 พันล้านบาท โดย บสย. จะเป็นผู้ค้ำประกันให้ลูกค้าละไม่เกิน 2 แสนบาท และ 4. โครงการสินเชื่อสวัสดิการ เป็นสินเชื่อเพื่อเป็นทุนประกอบการหรือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ หรือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เน้นปล่อยกู้พนักงานรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานรัฐ รายละไม่เกิน 2 แสนบาท
ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อเพื่อแก้ปัญหาความยากจนทั้งหมด เป็นโครงการสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน โดยเป็นการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 0.5-0.7% ต่อเดือน ซึ่งถือว่าต่ำกว่าการกู้เงินนอกระบบอย่างมาก
นายชาติชาย กล่าว่า ในโอกาสวันที่ 1 เม.ย. ถือเป็นวันสถาปนาธนาคารออมสิน ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ ยุทธการทุบกระปุกสร้างอนาคต โดยเชิญชวนเด็กและเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 7-15 ปี ในวันที่ 1-7 เม.ย. นี้ นำกระปุกออมสินที่หยอดเหรียญเงินไว้มาฝากกับธนาคารออมสิน ในบัญชีเดิมหรือบัญชีใหม่ จะได้รับกระปุกออมสินแพะเพิ่มทรัพย์ และกิจกรรมสัปดาห์ออมทรัพย์ลุ้นรับกระปุกออมสินทองคำกับบัตรเดบิต โดยเชิญชวนผู้ฝากอายุ 15 ปีขึ้นไป ทำบัตรเดบิตออมสินประเภทใดก็ได้ มีสิทธิ์ลุ้นรับกระปุกออมสินทองคำ มูลค่ารางวัลละ 1 แสนบาท จำนวน 50 รางวัล รวมเป็นเงินรางวัลทั้งสิ้น 5 ล้านบาท
ธนาคารมีการคาดการณ์ว่าภายในวันที่ 1 เม.ย. นี้ จะมีประชาชนนำเงินมาฝากกับธนาคารออมสิน คิดเป็นวงเงินประมาณ 2 พันล้านบาท โดยในช่วง 1 สัปดาห์นี้ คาดว่าอยู่ที่ 3-4 พันล้านบาท ขณะที่กิจกรรมพิเศามอบเงินขวัญถุงเด็กแรกเกิด จำนวน 500 บาท คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 200 ราย คิดเป็นวงเงิน 1 ล้านบาท และกิจกรรมตั้งชื่อ “ออมสิน" รับเงินเพิ่ม 5 พันบาท จะมีประชาชนเข้าร่วมทั้งสิ้น 2-3 พันคน ใช้เงินดำเนินการ 1.5 ล้านบาท โดยกิจกรรมทั้งหมดคาดว่าใช้เงินดำเนินการทั้งสิ้น 50 ล้านบาท