2.ให้กรมธนารักษ์ไปเร่งจัดสรรพื้นที่ตามแนวทางหลวง เพื่อพัฒนาเป็นจุดพักรถขนาดใหญ่ลักษณะเหมือนในต่างประเทศ รวมทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นจุดพักรถที่มีร้านค้าบริการด้วย 13 แห่ง และพักรถเพียงอย่างเดียว 28 แห่ง ในหลักการจะมีการว่าจ้างเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ โดยเรื่องนี้ธนารักษ์ต้องไปกำหนดจุดให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
3.การใช้ประโยชน์จากการเช่าพื้นที่มักกะสันที่กรมธนารักษ์จะรับโอนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) จำนวน 490 ไร่ มาพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ พื้นที่แก้มลิง และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ตามนโยบายรัฐบาล โดยกรมจะหารือกับ ร.ฟ.ท.ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะตีมูลค่าที่ดินมาหักภาระหนี้ได้เท่าใด จากปัจจุบัน ร.ฟ.ท.มีภาระหนี้ค้างกระทรวงการคลังกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าพื้นที่จะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท
4.ให้กรมธนารักษ์ไปพิจารณาที่ราชพัสดุขนาดใหญ่อื่นๆ ที่ยังไม่มีการพัฒนา เช่น พื้นที่ของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) เช่น ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์(โซล่าร์ฟาร์ม) เหมือนในต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นพลังงานทางเลือกตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงการดำเนินงานที่ยังค้างอยู่ เช่น การประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ การดูแลปริมาณเหรียญ และออกเหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึกต่างๆ ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม