เงินบาทเปิด 32.45/47 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 7, 2015 09:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.45/47 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.49/51 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินภูมิภาคหลังเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าเนื่องจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐที่ประกาศออกมาเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ไม่ค่อยดีนัก
"บาทกลับมาแข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์อ่อนค่าจากตัวเลข non-farm ที่ออกมาไม่ค่อยดี" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 32.45-32.55 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.55 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 119.67 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0892 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4800 บาท/ดอลลาร์
  • คณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน ประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้า, สภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย จะมีการประชุมประจำเดือน เม.ย. คาดว่า จะมีการพิจารณาปรับลดการขยายตัวภาคการส่งออกจากเดิมที่กกร.มองว่า ขยายตัว 3.5% เนื่องจากการส่งออกเดือน ก.พ. ติดลบ 6.14% และเศรษฐกิจโลกในตลาดหลัก ๆ ยังขยายตัวไม่ดีนัก
  • กฟผ.เตรียมทบทวนตัวเลขการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)ปีนี้ใหม่จากที่กำหนดไว้ที่ 27,500 เมกะวัตต์ หลังพบโอกาสโตตามเป้าน้อยแม้อากาศจะร้อนระดับ 40 องศาแต่เศรษฐกิจชะลอตัวกลับฉุดการใช้ไม่โต คาดพีคส่อลดลงจากเป้าเล็กน้อยแต่ไร้ปัญหาสำรองไฟยังสูง
  • นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีและคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยถึงการใช้มาตรา 44 ในเชิงเศรษฐกิจว่า ในระยะสั้นน่าจะทำให้ตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ไทยคึกคักขึ้นได้เล็กน้อย เนื่องจากการยกเลิกกฎอัยการศึกจะทำให้บริษัทประกันต่างชาติสามารถเปิดรับประกันได้ ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรปและสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับกองทุนต่างชาติที่สามารถกลับเข้ามาลงทุนในไทยได้ จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีหลายกองทุนที่มี นโยบายไม่ลงทุนในประเทศที่ประกาศกฎอัยการศึก
  • พาณิชย์เปิดโพลความเชื่อมั่น มี.ค. ตกต่อเนื่องเดือนที่ 3 ห่วงสารพัด ทั้งเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าคาด เกษตรกรรายได้หดไม่พอใช้ หนี้ครัวเรือนพุ่งปรี๊ด ภัยแล้ง จนถึงเหตุไม่สงบที่ใต้ ส่งผลวิตกรายได้อนาคตต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกรอบ 8 เดือน เชื่อมั่นเอสเอ็มอีวูบตาม แต่ลุ้นเทศกาลสงกรานต์ดันธุรกิจโต
  • นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการสายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ภาพของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยไตรมาส 2 ดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงจากปัจจัยเศรษฐกิจที่ยังไม่สนับสนุนการเติบโต การบริโภคในประเทศยังไม่ฟื้นตัว การลงทุนของภาครัฐยังล่าช้ากว่ากำหนด การส่งออก 2 เดือนที่ผ่านมาติดลบ และมีโอกาสที่ปี 2558 การส่งออกจะเติบโตเป็น 0%
  • ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในเดือน มี.ค.ขยายตัวน้อยกว่าคาดส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะเลื่อนแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 126,000 ตำแหน่งในเดือน มี.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.56 และยังปรับขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานเดือน มี.ค.ทรงตัวที่ระดับ 5.5%
  • นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า สัญญาณชี้วัดในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว โดยปัจจัยดังกล่าวนั้นรวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายและข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยเขาคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • ผลการสำรวจของสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ(ISM) บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคบริการของสหรัฐขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงในเดือน มี.ค.และอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด โดยดัชนีภาคบริการของสหรัฐในเดือน มี.ค.ลดลงแตะ 56.5 จาก 56.9 ในเดือน ก.พ. สำหรับดัชนีย่อยอื่นๆนั้น ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ซึ่งเป็นปัจจัยชี้วัดภาวะธุรกิจในอนาคต เพิ่มขึ้นแตะที่ 57.8, ดัชนีการจ้างงานขยับขึ้นจากเดือน ก.พ. แตะที่ 56.6 แต่ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจลดลงแตะ 57.7
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.พุ่งขึ้น 3 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย.พุ่งขึ้น 17.7 ดอลลาร์ หรือ หรือ 1.47% ปิดที่ 1,218.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 40.9 เซนต์ ปิดที่ 17.11 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.ทะยานขึ้น 25.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,180.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 22.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 768.80 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเยน แต่ปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0979 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0976 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4924 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4912 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.34 เยน เทียบกับระดับ 118.98 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9556 ฟรังก์ จาก 0.9532 ฟรังก์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7626 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7638 ดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ