“หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ เราคาดว่าหุ้นของบริษัทจะสามารถซื้อขายได้ภายในปี 58 และได้แต่งตั้งให้ บริษัททริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งกับก.ล.ต.ได้ประมาณไตรมาสสองถึงสามของปีนี้" น.ส.ชัญญา กล่าว
ปัจจุบัน ไทยโคโคนัทฯ เป็นผู้ผลิตและแปรรูปมะพร้าวเพื่อการส่งออก โดยมียอดขายน้ำมะพร้าวน้ำหอมแปรรูปเป็นอันดับ 1 ของไทย รวมทั้งบริษัทฯยังเป็นผู้ผลิตและส่งออกกะทิและกะทิแปรรูปติดอันดับ 1 ใน 3 ของไทย ผลการดำเนินงานล่าสุด ณ สิ้นปี 57 บริษัทมีรายได้รวม 2,113 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 269 ล้านบาท รายได้รวมขยายตัว 57% เมื่อเทียบกับปี 56 ซึ่งมีรายได้รวม 1,343 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท
ขณะที่ปี 58 บริษัทฯก็คาดว่ารายได้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หรือคิดเป็น 56.34% มาอยู่ที่ประมาณ 3.2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.1 พันล้านบาท และกำไรสุทธิจะเติบโตไปตามรายได้ จากปี 57 มีกำไรสุทธิที่ 274.70 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการส่งออกไปต่างประเทศ 3,098 ล้านบาท และในประเทศ 201.56 ล้าบาท
ส่วนแผนการลงทุนในระยะ 3-5 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการดำเนินโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวลจากมะพร้าว ขนาด 5 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้เองภายในโรงงาน ทำให้สามารถบริหารต้นทุนการผลิตถูกลง มองว่าจะใช้เงินลงทุนราว 300 ล้านบาท น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 59-62
ด้านน.ส.ปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี กล่าวว่า ธุรกิจแปรรูปและส่งออกอาหารยังเป็นดาวรุ่งของไทยและเป็นธุรกิจที่มีอนาคตมาตลอด ปัจจุบันธุรกิจอาหารส่งออกมีมูลค่าการส่งออกปีละเกือบ 1 ล้านล้านบาทแล้วในขณะนี้ ภายใต้การแข่งขันด้านคุณภาพและมาตรฐาน ความปลอดภัย เพื่อสร้างการยอมรับในตลาดส่งออกหลักๆของโลก ได้แก่ สหรัฐ ยุโรป และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีนและอาเซียนที่มีปริมาณการค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลัง
สำหรับกรณีของไทยโคโคนัทฯเ ป็นตัวอย่างของผู้ประกอบการผลิต แปรรูป และส่งออกสินค้าอาหารของไทยที่ประสบความสำเร็จ และเป็นธุรกิจที่มีอนาคต จากปัจจัยความสำเร็จของกลุ่มผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ การมีพันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจที่เข้มแข็ง กระจายอยู่ 52 ประเทศ ทุกทวีปของโลก และที่สำคัญคือเครือข่ายแหล่งวัตถุดิบที่ที่แข็งแกร่งทั้งในและนอกประเทศ รองรับการขยายตัวทางธุรกิจแบบก้าวกระโดดในระยะต่อไป ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มความต้องการ กะทิ เครื่องดื่มมะพร้าวน้ำหอมพร้อมดื่ม และกะทิพร้อมดื่มในตลาดโลก
นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้เริ่มการรุกทำตลาดด้วยแบรนด์ของตนเองในตลาดเกิดใหม่ที่ศักยภาพสูง เช่น จีนและอาเซียน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ไทยโคโคนัท จึงน่าจะเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ น่าจับตามอง และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
น.ส.ปิ่นมณี กล่าวอีกว่า บริษัทเตรียมเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุน(โรดโชว์)ในช่วงปลายไตรมาส 3/58 โดยจะเน้นในหัวเมืองใหญ่ๆ คาดว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากสินค้าอาหารเป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกและภาคการส่งออกอาจจะดูชะลอตัวออกไป แต่บริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว จะเห็นได้จากผลประกอบการทั้งกำไรสุทธิและรายได้ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อเนื่องมาหลายปี