อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมไม่ได้กำหนดราคาให้ภาคเอกชนต้องรับซื้อ แต่ให้กำหนดราคารับซื้อเอง โดยเน้นรับซื้อจากเกษตรกรรายย่อยที่มีพื้นที่เพาะปลูกไม่เกิน 50 ไร่
"ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้วิธีการแทรกแซงราคาอย่างแน่นอน"รมว.พาณิชย์ กล่าว
ส่วนในระยะยาวจะเร่งหารือกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้เหมาะสม และไม่เกิดปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำในระยะยาว เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะเร่งนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กนป.) ต่อไป นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการปุ๋ยสำหรับปาล์มน้ำมันให้ลดราคาขายลงไม่ต่ำกว่า 5% โดยจะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-16 ต.ค.นี้ รวม 6 เดือน
ด้านนางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ ราคาผลปาล์มสดแบบคละ (ปริมาณน้ำมัน 13-16%) เฉลี่ยกิโลกรัม (กก.) ละ 3.60-3.90 บาท ถ้าปริมาณน้ำมัน 17% ตามมาตรฐานกก.ละ 4.40-4.50 บาท ลดลงจากกก.ละ 5 บาทในช่วงเดือนก.พ.-มี.ค.58 เพราะขณะนี้ผลผลิตออกสู่มาก ประกอบกับ เศรษฐกิจโลกไม่ดี ความต้องการใช้ลดลง ขณะที่ทั้งอินโดนีเซีย และมาเลเซีย เร่งระบายน้ำมันดิบ ที่มีมากในสต๊อกออก ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกอยู่ที่เพียงกก.ละ 22-23 บาทเท่านั้น แต่ของไทยกก.ละ 26-27 บาท เพราภาคเอกชนช่วยกันพยุงไม่ให้ราคาตกลงมากกว่านี้
"ภาคเอกชนจะพยายามช่วยรับซื้อจากเกษตรกร แต่เน้นรายย่อย ส่วนราคาจะเป็นเท่าไร ต้องขอดูรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง ทั้งปริมาณเกษตรกร ปริมาณผลผลิต ราคาตลาดโลก แต่ถ้าจะให้ซื้อแบบคละที่กก.ละ 4.50 บาทคงไม่ได้ เพราะปาล์มมาตรฐาน เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% กก.ละ 4.5 บาทแล้ว ถ้าเปอร์เซ็นต์น้ำมันลดลง ราคาก็จะลดหลั่นกันลงไป"นางวิวรรณ กล่าว