นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.54/55 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวระหว่าง 32.52-32.53 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันเงินบาทลงไปทำ Low 32.52/53 แต่ก็ดีดกลับมาปิดที่ 32.54/55 วันนี้ทุกสกุลเคลื่อนไหวในกรอบของตัวเอง เพราะรับข่าว Fed ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยไปหมดแล้ว" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
"คืนนี้จะมีตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ แต่คงไม่ค่อยมีผลอะไร" นักบริหารเงิน ระบุ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.07 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 120.30 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0738 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0775 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,545.11 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, +0.02%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 251.52 ลบ.(SET+MAI)
- นายดอน นาครธรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แนะให้จับตาเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการส่งออกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 โดยขณะนี้ประเมินว่ามูลค่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีจะต้องอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1.92 หมื่นล้านดอลลาร์ จึงจะสามารถผลักดันให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 0.8% ตามที่ธปท.คาดการณ์ไว้
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี 57 พบว่าสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของประเทศไทยอยู่ที่ระดับ 85.9-86% ของ GDP คิดเป็นมูลค่า 10.4 ล้านล้านบาท จากมูลค่า GDP ที่ 12 ล้านล้านบาท ซึ่งหากมองในภาพรวมจะพบว่าอัตราหนี้ครัวเรือนของไทยมีการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 54, ปี 55 และปี 56 โดยในปี 54 หนี้ครัวเรือนขยายตัวสูงมาก เนื่องจากมีปัญหาน้ำท่วมใหญ่ ทำให้มีการกู้เงินเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ส่วนปีต่อมามีโครงการประชานิยมเรื่องรถยนต์คันแรก และบ้านหลังแรก ทำให้หนี้ครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้น
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับภาคเอกชนว่า ในวันนี้ได้มีการเชิญภาคเอกชนมาพูดคุยถึงการทำงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุปสรรคปัญหาต่างๆ ที่ยังมีอยู่ เพื่อที่รัฐบาลจะได้รับทราบและหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ แต่วันนี้ไม่ได้มีการพูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) แถลงสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือน มี.ค.58 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดที่ 1,505.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.6% จากสิ้นปี 57 แต่ลดลง 5.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ผู้ลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้อสุทธิเป็นเดือนแรกของปีนี้ที่มูลค่า 2,391 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประกาศยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดมีความกังวล อีกทั้งธนาคารกลางของสหภาพยุโรป(ECB) เริ่มดำเนินนโยบาย QE ซึ่งทั้งสองเหตุการณ์ส่งผลบวกต่อเม็ดเงินลงทุนที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นทั่วโลก
- ศูนย์วิจัยทองคำเผย ดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือนเมษายน 58 ฟื้นตัวเล็กน้อยแต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดสะท้อนความไม่แน่ใจในการฟื้นตัวของราคาทองคำ โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 49.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุดจากเดือนก่อน แต่ผู้ค้ามองค่อนข้างบวกเชื่อฟื้นตัวจากเดือนมีนาคม ระหว่างเดือนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 17,500-19,500 บาทต่อบาททองคำ ทองโลกมองกรอบ 1,160-1,260 เหรียญ ด้านต้นทุนหน้าเหมือง 57 ทรุดตามราคาทองคำโลก ส่งต้นทุนรวมเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักปรับลดลงต่ำกว่า 1,000 เหรียญ
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกง ปรับตัวลง 180 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,020 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,192.06 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 19.47 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
- แหล่งข่าวในแวดวงธนาคารเผย กระทรวงการคลังของจีนกำลังศึกษามาตรการใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารในการตัดหนี้เสีย ภายหลังจากที่ทางการจีนได้เคยเปิดโอกาสให้ธนาคารในประเทศสามารถตัดหนี้เงินกู้ขนาดเล็กมาแล้วเมื่อช่วงต้นปีก่อน
- รัฐสภาญี่ปุ่นอนุมัติงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2558 ซึ่งมียอดสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 96.34 ล้านล้านเยน (8.0345 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เม.ย. โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็ยังคงฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางการคลังไว้ได้