นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.53/55 บาท/ดอลลาร์ จากวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.54/55 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทยังแกว่งแคบๆในกรอบเดิม 32.50-32.60 ไม่ไปไหน เมื่อคืนขึ้นไปทำ High 32.58 แล้วก็แข็งค่าลงมา...คาดว่าสัปดาห์หน้าจะยังเงียบเหงา แต่ก็ต้องดูทิศทาง Currency" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 120.07 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0675 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0738 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ 32.5490 บาท/ดอลลาร์
- แบงก์ชาติเผยกำลังจับตาภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้นมีโอกาสจีดีพีต่ำกว่า 3.8% สำหรับปีนี้ ต่ำกว่า ธปท.ประมาณการไว้ แนะเร่งการลงทุน หวังผลช่วยต่อยอดการลงทุนเอกชนและการบริโภคประเทศได้ ห่วงการส่งออกไทยปีนี้จะติดลบเป็นปีที่ 3 คาดปัญหาหนี้ครัวเรือนลดลงได้ในปี 59
- คลังวางใจหนี้ครัวเรือนไร้ปัญหาแม้สูงถึง 10 ล้านล้านบาท เพราะส่วนใหญ่กว่า 75% เป็นหนี้มีหลักประกันดีทั้งซื้อบ้าน-ลงทุนธุรกิจ ส่วนหนี้บัตรเครดิต-สินชื่อบุคคลรวมกันแค่ 6% ในจำนวนหนี้ทั้งหมดเป็นเอ็นพีแอลแค่ 3% ถือว่าสบายใจได้
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เน้นย้ำให้ภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นผู้นำด้านการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน+3 จะยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารพัฒนาเอเชีย( ADB) ที่คาดว่าในปี 2558 และ 2559 อัตราการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน+3 จะอยู่ที่ 4.7% และ 4.8% ตามลำดับ
- นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศหลักเกณฑ์อนุญาตให้บริษัทต่างประเทศออกและเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในประเทศไทย (ไพรมารี่ลิสติ้ง) เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยงตลาดทุนไทยกับภูมิภาคและตลาดโลกซึ่งจะทำให้ตลาดทุนไทยมีขนาดใหญ่และทำให้น่าสนใจยิ่งขึ้น
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งช่วยหนุนมุมมองเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐภายในปีนี้
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงไปกว่า 3.5 ดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 37 เซนต์ ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่ากรีซสามารถชำระคืนเงินกู้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ และลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 1,193.60 ดอลลาร์/ออนซ์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 60 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,080 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,198.55 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.49 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง
- กรีซผ่อนชำระหนี้เงินกู้มูลค่า 458 ล้านยูโร (ประมาณ 492 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวานนี้ ท่ามกลางความพยายามในการบรรลุข้อตกลงเพื่อขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากนานาชาติในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 4 เม.ย. เพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 281,000 ราย