นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากตัวเลขสถานการณ์ผลผลิตปาล์ม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ตั้งแต่เดือนมี.ค.58 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลให้ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีแนวโน้มลดลง และมีการคาดการณ์ว่าจะมีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบของประเทศคงเหลือ ณ สิ้นเดือนมี.ค.58 อยู่ที่ประมาณ 170,093 ตัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชาวสวนปาล์ม
กระทรวงพลังงานจึงได้ออก 2 มาตรการสำคัญที่จะสามารถช่วยเหลือด้วยวิธีการดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นตลาดอยู่ในปัจจุบัน เพื่อทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบมีเสถียรภาพสูงขึ้น ได้แก่ การมอบนโยบายให้กรมธุรกิจพลังงาน เพิ่มสัดส่วนการผสมB100 ในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากไม่ต่ำกว่า 3.5% เป็นไม่สูงกว่า 7% ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. โดยการปรับเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลจาก 3.5% เป็น 6% จะช่วยซับน้ำมันปาล์มดิบได้ประมาณ 6,500 ตัน/สัปดาห์
นอกจากนี้ยังให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ใช้น้ำมันปาล์มดิบที่โรงไฟฟ้ากระบี่ขนาด 300 เมกะวัตต์ โดยนำไปผสมกับน้ำมันเตาเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในสัดส่วน 20% ซึ่งปริมาณรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มเติมได้อีก 1,000 ตัน/สัปดาห์
"จะเห็นได้ว่า จากมาตรการที่กระทรวงพลังงานหาทางออกให้กับผู้ผลิตปาล์มทั้ง 2 แนวทางนั้น จะสามารถช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบที่ล้นตลาดอยู่ ณ ตอนนี้ได้ถึง 7,500 ตัน/สัปดาห์ ซึ่งสามารถช่วยลดผลกระทบให้กับเกษตรได้อีกส่วนหนึ่ง โดย ในระยะยาวกระทรวงพลังงานจะแนวทางช่วยเหลือต่อไป"นายอารีพงศ์ กล่าว