"ตัวเลขของไตรมาสที่ 2 นี้ ผมได้จากตัวเลขจริงของเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ผมประมวลเหตุการณ์เดือนมีนาคมใส่เข้าไป เป็นการประมาณการที่ถือว่าใกล้เคียงที่สุด แม้ว่าการส่งออกจะติดลบถึง 4% อันนี้ทุกคนก็ใจหายพอสมควร เพราะว่าการส่งออกเราไม่ได้หดตัวมานานแล้ว ในปีที่ผ่านมาก็ประมาณใกล้ๆ 0% เท่านั้นเอง เพราะเพิ่ม 1% ด้วยซ้ำไป แต่ปีนี้การส่งออก 2 เดือนแรกนี้เฉลี่ยประมาณ 4% นิดๆ เมื่อรวม 3 เดือนแล้วจะหดตัวถึง 4% แต่เนื่องจากการลงทุนภาครัฐก็ดี การลงทุนเอกชนก็ดี และการส่งออกบริการก็ดี เพิ่มสูงมาก ก็เลยชดเชยการส่งออกสินค้าที่ลดลงไปได้ โดยรวมแล้วเชื่อว่าทำได้สูงกว่า 3%" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อช่วงค่ำวานนี้
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทิศทางการส่งออกในไตรมาสถัดไปน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น หลังจากจีนและยุโรปใช้มาตรการ QE(Quantitative Easing) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จะทำให้มีกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น หากยอดส่งออกไม่ลดลงอีกต่อไปและปัจจัยอื่นๆ เช่น การลงทุนภาคเอกชนก็ดี การลงทุนภาครัฐก็ดี ยังมีการขยายตัวต่อไป และการท่องเที่ยวค่อนข้างจะขยายตัวต่อไป เนื่องจากมีแรงส่งจากนักท่องเที่ยวจากยุโรป อเมริกา อันเนื่องจากการที่ยกเลิกกฎอัยการศึกไปแล้ว เศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากที่เป็นอยู่
"สิ่งเหล่านี้ ทำให้เชื่อได้ว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้ และไตรมาส 3 ของปีนี้น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากที่เป็นอยู่ในไตรมาสนี้อีก ถ้าการส่งออกไม่ลดลงไปอีก แต่การขยายตัวของการลงทุนภาครัฐเดินต่อไป การขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนเดินต่อไป และการท่องเที่ยวเดินต่อไป เศรษฐกิจเราน่าจะดีขึ้นกว่านี้แน่นอน" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว