ช่วงเย็นนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้า ซึ่งเป็นการแข็งค่าตามกระแสของ flow รวมทั้งวันนี้ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดดัชนีปรับเพิ่มขึ้น 9.03 จุด ซึ่งไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่เป็นเหตุผลสำคัญมากนักต่อการแข็งค่าของเงินบาทในวันนี้ ซึ่งตลาดยังคงรอจับตาผลการประชุมในสัปดาห์ที่สำคัญ ทั้งภายในประเทศคือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) และของธนาคารกลางสหรัฐ คือ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC)
"ที่บาทแข็งค่าขึ้น คงไม่ได้เป็นเพราะปัจจัยอะไรสำคัญ น่าจะเป็นเพราะ flow แล้วก็ตลาดหุ้นไทย ที่วันนี้ปิดบวก" นักบริหารเงิน ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 32.35 - 32.45 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.44 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 119.00 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0689 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0700 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,569.35 จุด เพิ่มขึ้น 9.03 จุด, +0.58%
- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แถลงผลงานรอบ 6 เดือน (12 ก.ย.57-12 มี.ค.58) เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวจาก GDP ที่ติดลบ 0.5% ในไตรมาสแรกปี 57 ภายหลังจากการวางนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือน เช่น เร่งรัดเบิกจ่ายเงินที่ค้างจากโครงการรับจำนำข้าว การกระตุ้นความเชื่อมั่นภาคเอกชนและนักท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว และความเชื่อมั่นการลงทุนภาครัฐ ส่งผลให้เศรษฐกิจปรับดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 57 ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกปี 58 โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 3% เนื่องจากการฟื้นตัวของเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยทั้ง 4 เครื่องยนต์ปรับดีขึ้น ขณะที่ทั้งปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังโตได้ 3.5-4.5%
- กระทรวงพาณิชย์ เตรียมประกาศเป้าหมายการส่งออกในปี 2558 ใหม่ในปลายสัปดาห์นี้ หลังจากที่ได้ทบทวนตัวเลขร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยคาดว่าจะปรับลดเป้าหมายการส่งออกลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 4% มาเหลือมากกว่า 1% ขณะที่ยังคาดว่าการส่งออกในเดือนมี.ค.นี้จะยังติดลบ ซึ่งส่งผลให้ไตรมาสแรกการส่งออกไทยอาจจะยังติดลบ
- นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า การที่ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% จะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินราว 1.2 ล้านล้านหยวน (1.96 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากสถาบันการเงินต่างๆได้รับอนุญาตให้สำรองเงินในปริมาณที่น้อยลง
- สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์จีนจะสูงกว่า 25 ล้านคันในปี 2558 โดยยอดขายรถยนต์ของจีนอาจเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 25.13 ล้านคันในปี 2558
- ลิซา เมอร์คาวสกี้ วุฒิสภาสหรัฐจากพรรคริพับลิกัน และประธานคณะกรรมการพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ เตรียมผลักดันการออกกฎหมายยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันดิบภายในปีนี้ โดยทางคณะกรรมการจะดำเนินการพิจารณาเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐจะยังมีอำนาจจำกัดการส่งออกในสถานการณ์ฉุกเฉินตามเห็นสมควร
ด้านนายไรอัน แลนซ์ ประธานและซีอีโอ บริษัทโคโนโคฟิลลิปส์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้อาจจะยังไม่ได้รับการอนุมัติในช่วง 1-2 ปีนี้