ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงไตรมาส 2/58 คาดว่าน่าจะขยายตัวเป็นบวกมากขึ้นกว่าช่วงไตรมาสแรก ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/58 จะขยายตัวที่ระดับ 3% คงต้องดูว่าเป็นการเปรียบเทียบกับช่วงเวลาใด หากเทียบกับช่วงเดียวกันของไตรมาส 1/57 จะมีอัตราการขยายตัวที่สูง เพราะมีฐานต่ำ แต่หากเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 57 อาจมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำลง
"คงต้องดูด้วยความระมัดระวัง เราอยากเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ GDP ไตรมาส 4(ปี 57)อยู่ในระดับสูงหากเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้อาจดูเติบโตไม่มาก"นายประสาร กล่าว
ผู้ว่าการ ธปท.ยังกล่าวถึง หนี้เสียใในระบบธนาคารพาณิชย์ว่า ไม่ถือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งต่างดูแลในส่วนนี้อยู่แล้ว ประกอบกับเป้าหมายในการขยายสินเชื่อก็ไม่อยู่ในระดับที่สูงเกินไป มองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของธนาคาร เพราะจากผลประกอบการที่ผ่านมาแต่ละธนาคารก็มีผลกำไรดี ประกอบกับ ธปท.ได้สั่งให้มีการกันสำรองไว้ค่อนข้างสูง
"ด่านหน้า เขาก็มีความระมัดระวังอยู่แล้ว(การปล่อยสินเชื่อ) ส่วนด่านหลังก็มีเงินกองทุน และเงินสำรองที่ค่อนข้างหนา ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นห่วง" นายประสาร กล่าว
สำหรับภาวะหนี้ครัวเรือนในขณะนี้ก็ยังไม่น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะตัวเลขหนี้ครัวเรือนได้ชะลอตัวลงเป็นลำดับมาตลอดในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา แต่สาเหตุที่หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้เพราะประชาชนประสบภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปี 54 จึงจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือซื้อยานพาหนะใหม่ แต่ตอนนี้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนได้เริ่มชะลอลงแล้ว จึงถือว่าไม่น่าเป็นห่วง