"กระทรวงไอซีทีมุ่งมั่นที่จะดำเนินการด้านต่างๆ สู่การเป็นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล อันจะเป็นกลไกสำคัญในกานปฎิรูปประเทศไทยสู่ยุคใหม่ ที่เศรษฐกิจมีความทันสมัยและสังคมที่สงบสุขอย่างยั่งยืน"นายพรชัย กล่าว
พร้อมกันนี้สัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ ทางกระทรวงไอซีทีจะเข้าหารือร่วมกันกับ กสทช. ในเรื่องของความเป็นไปได้ในการรีฟาร์มมิ่งคลื่นทั้งหมด แต่จะเป็นการทยอยรีฟาร์มมิ่ง หลังคสช.เปิดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ระบบ 4G โดยเบื่องต้นจะเริ่มที่คลื่นความถี่ 1,800 MHz และ 2,600 MHz ก่อน เพื่อรองรับการดำเนินงานของหน่วยงานราชการ ขณะที่หาการหารือเป็นไปในทางเดียวกัน จะมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หลังจากนั้นจะมีการหารือกับทางนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เพื่อทาแนวทางการดำเนินการดังกล่าวต่อไป
สำหรับผลการดำเนิงานตามนโยบายรัฐบาลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (12 ก.ย.57-31 มี.ค.58) กระทรวงไอซีทีได้เตรียมความพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy :DE) ด้วยการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก คือ กลุ่มกฎหมายส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่ กฎหมายปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ส่วนกฎหมายการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้
กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มกฎหมายที่สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่ กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้แยก พ.ร.บ.เป็น 2 ฉบับ คือ กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา สำหรับกฎหมายองค์กร จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม คาดว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาจะตรวจพิจารณาแล้วเสร็จต้นเดือนพ.ค.58 และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มกฎหมายด้านความมั่นคง ได้แก่ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ การดำเนินงานในด้านการักษาความมั่นคงปลอดภัย (Cyber Security) และการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ฯ กระทรวงไอซีทีได้ดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ไม่เหมาะสมที่กระทำผิดกฎหมาย โดยดำเนินการทางกฎหมายเรื่องเว็บหมิ่นสถาบันและเว็บไซต์ลามกอนาจาร ประมาณ 3,900 ยูอาร์แอล และมีคำสั่งศาลอาญาให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ประมาณ 3,400 ยูอาร์แอล คิดเป็น 87.32% ส่วนการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ฯโดยเฉพาะกรณีซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ได้แต่ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ซึ่งได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว 10 ราย
นอกจากนี้ กระทรวงไอซีทีได้เตรียมความพร้อมสำหรับความเปลี่ยนผ่านไปสู่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหน่วยงานตามกฎหมายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในช่วงประมาณเดือนส.ค.58 ตลอดจนจะมีการนำเสนอนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในเดือนก.ย.58
รมต.กระทรวงไอซีที กล่าวว่า การดำเนินงานในระยะเร่งด่วนจะพัฒนานโยบายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้งบประมาณ 3,755 ล้านบาท โดยกระทรวงไอซีทีร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อจัดทำโครงการนำร่องขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ขณะที่ในปี 58 จะมุ่งให้ความสำคัญกับการบรูณาการนวัตกรรมงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล