ขณะที่การส่งออกในช่วงไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.58) มูลค่า 53,365 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 4.69% นำเข้าไตรมาสแรก 51,936 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 6.43% ดุลการค้าไตรมาสแรก เกินดุล 1,429 ล้านเหรียญสหรัฐ
น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกเดือน มี.ค.ดีขึ้น โดยเป็นการหดตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อน และยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่สำคัญไว่ได้ ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตร/สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรในกลุ่มที่มีปัญหาพบว่าปริมาณการส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และแม้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมจะยังหดตัวแต่ก็มีอัตราชะลอลง
ปัจจัยที่กระทบต่อการส่งออกของไทยขณะนี้ยังมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยปัจจัยภายในประเทศมาจาก 1. การขาดแคลนวัตถุดิบ เช่น สินค้ากุ้ง ที่ประสบปัญหาโรค EMS และปลาที่ประสบปัญหาการทำประมงกับอินโดนีเซีย รวมถึงปัญหา IUU 2. ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน 3. มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีค่าแรงถูกกว่า และได้สิทธิพิเศษทางภาษี
ขณะที่ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เหลือโต 3.5% จากเดิม 3.8%, การนำเข้าในภาพรวมของทุกประเทศลดลง, ความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศคู่ค้าของไทย, ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะข้าว ยางพาราและน้ำตาล, ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงจากระดับ 87 ดอลลาณ์/บาร์เรลในเดือนต.ค.57 เหลือ 58 ดอลลาร์ในเดือน ก.พ.58,
มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี(NTB), ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาตอนเหนือ, นโยบายภายในประเทศของประเทศคู่ค้า เช่น จีนและอินโดนีเซียที่หันมาพึ่งพาการผลิต และพึ่งพาอุตสาหกรรมภายในประเทศมากขึ้น ในขณะที่สหรัฐดึงการลงทุนหลายอย่างกลับไปผลิตเองในประเทศ, กรณีที่สหภาพยุโรปตัดสิทธิ GSP ในสินค้าไทยหลายรายการตั้งแต่ 1 ม.ค.58